วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ทัศนคติเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยน รม 12:2 อฟ 4:23


ข้อพระธรรม        โรม 12:2  อฟ 4:23
หัวเรื่อง                  ทัศนคติเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยน
คำนำ                     
หลายคนถามว่าทำไมชีวิตการเป็นคริสเตียนของตนเองจึงไม่ดีเหมือนคนอื่น  ไม่เติบโตในความเชื่อ   ไม่มีการเปลี่ยนแปลอะไรในชีวิตเลย ทั้งๆ ที่เราก็อ่านพระคัมภีร์ ไปโบสถ์ อธิษฐาน นมัสการพระเจ้าเหมือนคนอื่น   คำตอบอาจมีหลายเหตุผล แต่เหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ ทัศนคติในการดำเนินชีวิตคริสเตียน

I.                                       ความหมาย ของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ
(1)       คำว่า “จิตใจ”  เป็นคำเดียวกันมีความหมายเหมือนกัน ในภาษากรีกใช้คำว่า  nous  หมายถึง  ใจ, ความคิด, การให้เหตุผล, ท่าที, ความตั้งใจ, ความเข้าใจ, การมองเห็นหรือมุมมอง, ทัศนคติ
(2)       คำว่าเปลี่ยน          หมายถึง  การเองสิ่งหนึ่งมาแทนสิ่งหนึ่ง
(3)       คำว่าเปลี่ยนแปลง   การทำให้ลักษณะต่างไปจากเดิม
(4)       ในพระคัมภีร์หมายถึง  กรเปลี่ยนแปลงความคิด   จิตใจ  ทัศนคติ หรือมุมมองต่อการดำเนินชีวิตคริสเตียน ที่ต่างออกไปจากเดิม

II.                                  ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ
(1)       เพราะเป็นตัวกำหนดแนวความประพฤติหรือการดำเนินชีวิต  
ตัวอย่างคำเทศนาบนภูเขาของพระเยซูคริสต์  .........
(2)       เพื่อเปลี่ยนอุปนิสัย    หมายถึง    ความประพฤติที่เคยชินเป็นสันดาน    โรม 12:2 
(3)       เพื่อจะสามารถเข้าใจในพระประสงค์อันดีเลิศของพระเจ้าได้     โรม 12:2 
(4)       เพื่อชีวิตจะได้ก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า   2 ซมอ 12:21-23

III.                             จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองได้อย่างไร
(1)       เรียนรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าผ่านทางพระวจนะของพระองค์
(2)       อย่าประพฤติ (ดำเนินชีวิต) ตามอย่างคนในยุคนี้  โรม 12:2    สดด 1:1
(3)       เลียนแบบคนของพระเจ้า ที่เลียนแบบพระคริสต์  1 โครินธ์ 11:1
(4)       เลียนแบบของพระเจ้า   ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก   เอเฟซัส 5:1:


IV.                             นิทานคนเลี้ยงม้า : คบใกล้ชิดสนิทกับคนเช่นไรเราก็จะเป็นเหมือนคนเช่นนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หน้าที่ของลูกที่พึงปฏิบัติต่อบิดามารดา อพยพ 20.12, ฉธบ 5.16, อฟ 6.1-3, คส 3.20, 1 ทธ 5.4


เรื่อง                        หน้าที่ของลูกที่พึงปฏิบัติต่อบิดามารดา
พระธรรม               อพยพ 20.12, ฉธบ 5.16, อฟ 6.1-3, คส 3.20, 1 ทธ 5.4
คำนำ                      
จากกระแสในสังคมตอนนี้ เรื่องวุ่นวายขอครอบครัวแม่ประนอม  ผู้เป็นแม่ออกมามาฟ้องร้องลูกสาวว่าโกและฮุบกิจการ   ทำให้สังคมโจมตีลูกสาวคนโตอย่างหนัก  แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรยังไม่มีใครทราบ แต่สังคมได้ลงโทษผู้เป็นลูกไปแล้วว่าอกตัญญู   จากเรื่องนี้ ให้เรามาพิจารณาดูพระคัมภีร์ด้วยกันว่า พระเจ้าสอนเกี่ยวกับหน้าที่ของลูกที่พึงปฏิบัติต่อบิดามารดาอย่างไร
1.               จงให้เกียรติบิดามารดาขอตน (อพย 20.12, ฉธบ 5.16)
1.1.           คำว่าให้เกียรติ หมายถึง เคารพรัก เทิดทูน นับถือ    ยกไว้เหนือหัว
1.2.           เป็นบัญญัติข้อแรกที่ให้ปฏิบัติต่อมนุษย์
1.3.           เป็นบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาด้วย (ไปดีมาดี และมีอายุยืนนาน)
1.4.           ตัวอย่างของการไม่ให้เกียรติบิดามารดา อพย  21.15, 17, สภษ 19.26, สภษ 20.20,23.22
1.5.           ตัวอย่างที่ดีในการให้เกียรติบิดามารดา
2.               จงเชื่อฟังคำสั่งสอนบิดามารดาของคน (อฟ6.1, คส 3.20)
2.1.           เพราะเป็นการถูกและเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
2.2.           เพราะเป็นมงคลงามสวมศรีษะและเป็นจี้ห้อยคอ สภษ 1.8-9
2.3.           คำเตือน
(1)          จะหลงจากทางแห่งปัญญา สภษ 19.27
(2)          จะทำให้พ่อเสียใจทำให้แม่ขมขื่น  สภษ 17.25
(3)          ขาดพระพร ทำให้ชีวิตเสี่ยงอันตราย
3.               กตัญญูรู้คุณ ตอบแทนคุณบิดามารดาของตน  (1 ทธ 5.4)
3.1.           การดูแลเมื่อยามพ่อแม่เจ็บป่วย
3.2.           การเลี้ยงดูเมื่อยามพ่อแม่แก่ชรา
3.3.           เป็นการรับใช้พระเจ้าโดยเริ่มต้นที่ครอบครัว
4.               นำพ่อแม่มาเชื่อพระเจ้า
4.1.           อธิษฐาน
4.2.           ประกาศ
4.3.           สแดงความรักของพระเจ้าในชีวิตคุณ
สรุป

ด้วยสภาพสังคมที่เสื่อมลง แต่คริสเตียนต้องเป็นแบบอย่างในสังคมในการปฏิบัติต่อบิดามารดาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะบุคคลที่ทหน้าที่ต่อบิดามารดาอย่างดีย่อมได้รับพระพรจากพระเจ้า

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตจักร เอเฟซัส 4:1-16

หัวเรื่อง            ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตจักร
พระธรรม              เอเฟซัส   4:1-16
คำนำ
คริสตจักรเอเฟซัสก่อตั้งโดย อ.เปาโล เมื่อครั้งงเดินทาไปประกาศเที่ยวที่ 2 ท่านเคยพักอยู่ที่นั่นนานถึง สามปี เพื่อประกาศและเสริมสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง    ผ่านไปหลายปี เปาโลถูกจับขังคุก และถูกส่งตัวไปที่กรุงโรม ถูกควบคุมตัวอีก 2 ปี  ช่วงเวลานี้เองที่เปาโลเขียนจดหมายถึงคริสตจักรต่างๆ รวมทั้งเอเฟซัสด้วย ในบทที่ 4 นี้ เปาโลหนุนใจคริสตจักรให้รักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตจักรไว้
คำถาม                   พี่น้องคิดว่าคริสตจักรของเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือยัง ?
1.              ความหมาย “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตจักร”
1.1.       คำว่าคริสตจักร หมายถึง  ผู้ที่เชื่อหรือยอมรับว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์   หรือทุกคนที่บงเกิดใหม่แล้ว เชื่อพระเยซูคริสต์จริงๆ แล้ว
1.2.       คำว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หมายถึง 
1.2.1. การบังเกิดใหม่โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน (บัพติศมา) 1 คร 12:13
1.2.2. การมีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน คือพระเยซูคริสต์องค์เดียวกัน
1.2.3. การมีพระบิดาองค์เดียวกัน
1.2.4. การเป็นกายเดียวกัน หรือ คริสตจักรเดียว
1.2.5. การมีความเชื่อเดียวกัน
1.2.6. การมีบัพติศมาเดียวกัน
1.2.7. การมีความหวังใจอันเดียวกัน
2.              ความสำคัญของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
2.1.       เป็นผลอย่างหนึ่งของการช่วยให้รอด “สมกับการทรงเลือก” 1
2.2.       เป็นพระราชกิจของพระวิญญาณในตัวผู้เชื่อทุกคน 3
2.3.       เป็นเครื่องยืนยันว่าเราเติบโตแล้วในฝ่ายวิญญาณ  13
2.4.       เป็นความมั่นคงของคริสตจักร 14
2.5.       เป็นเป้าหมายของการดำเนินชีวิตคริสเตียน คือเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ 15
2.6.       เป็นข้อต่อที่ทำให้อวัยวะทุกอย่างเชื่อมสนิทกัน 16
3.              จะรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้อย่างไร
3.1.       มีใจถ่อมต่อกันและกัน
3.2.       มีใจอ่อนสุภาพต่อกันและกัน
3.3.       มีใจอดทนอดกลั้นต่อกันและกัน
3.4.       มีใจรักต่อกันและกัน
3.5.       มีใจเชื่อฟังทีมผู้นำคริสตจักร 11-13
3.5.1. ผู้นำคือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้า
3.5.2. เพื่อเตรียมสมาชิกให้ร่วมรับใช้
3.5.3. เพื่อเสริมสร้างพระกาย (คริสตจักร) ให้จำเริญขึ้น
3.6.       ใช้พระวจนะเป็นบรรทัดฐานปฏิบัติต่อกันและกัน  15
3.7.       ให้อวัยวะทุกอย่างทำงานตามความเหมาะสม 16

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เป็นคุณแม่ (พ่อ) ที่น่าสรรเสริญ

โครงร่างคำเทศนาเนื่องในวันแม่
หัวเรื่อง                 เป็นคุณแม่ (พ่อ) ที่น่าสรรเสริญ
คำนำ
เป็นเรื่องยากมากที่จะมีคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบ ทุกประการ มนุษย์เราย่อมมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยด้วยกันทั้งสิ้น ในพระคัมภีร์เมื่อกล่าวถึงคุณแม่ ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน  วันนี้เราจะมาดูบางแง่มุมของคุณแม่ในพระคัมภีร์ ที่ได้รับการสรรเสริญ โดยเราสามารถนำมาเป็นแบบอย่างได้
1.             แม่ที่ปกป้องลูกด้วยชีวิต     นางโยเคเบด  มารดาของโมเสส  อพย 2:1-10 , ฮบ 11:23
2.             แม่ที่ตั้งใจถวายลูกให้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าตลอดชีวิต   
นางฮันนาห์                 มารดาของซามูเอล  1 ซมอ 1:9-11,24-28 
3.             แม่ที่ยอมให้พระเจ้าใช้ตนเองให้เป็นไปตามพระประสงค์     (พิเศษ)
3.1.       นางภรรยาของมาโนอาห์   มารดาของแซมสัน  ผวฉ 13:1-25
3.2.       นางมารีย์  มารดาของพระเยซูคริสต์  ลก 1:26-38
4.             แม่ที่ยืนหยัดในพระเจ้าเพื่อสอนลูกให้เติบโตในทางของพระเจ้า 
4.1.       นางอาบี  มารดาของ กษัตริย์เฮเซคียาห์  2 พศด 29:1-2,2พกษ 18:1-3
4.2.       นางเยดีดาห์  มารดาของกษัตริย์โยสิยาห์  2 พกษ 22:1-3, 2 พศด34:1-2
5.             แม่ที่เป็นแบบอย่างให้ลูกในการถวายทรัพย์   มก 12:41-44    หญิงม่ายที่ถวายเงิน
6.             แม่ที่เป็นแบบอย่างให้ลูกในการนมัสการและอธิษฐาน 
6.1.       นางมารีย์  มารดาของพระเยซู    กิจการ 1:14
6.2.       นางมารีย์  มารดาของมาระโก   กิจการ 12:12
7.             แม่ที่เป็นแบบอย่าง สอน และ สืบทอดความเชื่อที่ถูกต้องให้ลูก    
นางโลอีส มารดาของนางยูนีส มารดาของ ทิโมธี  2 ทธ 1:15
8.             แม่ที่เป็นแบบอย่างแก่ลูกในด้านต่างๆ เช่นครอบครัว ในสังคม  ในคริสตจักร และอื่นๆ
สรุป

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณแม่ในพระคัมภีร์  ที่เป็นแบบย่างให้กับลูก   หากเราจะสามารถนำเอามาไว้ในชีวิตของเราทั้งหมด ก็จะทำให้เราเป็นคุณแม่ (พ่อ) ที่สมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว

ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า 2 โครินธ์ 5 . 14-18

ข้อพระธรรม                        2 โครินธ์ 5 . 14-18เรื่อง                                       การดำเนินชีวิตคริสเตียนหัวเรื่อง                                 ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าชักจูงความสนใจสร้างสรรความต้องการประโยคสรุป                         คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้านั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากลักษณะคนแห่งโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ลักษณะคนแห่งโลกนี้เหมาะสมกับชีวิตแห่งโลกนี้      ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าเหมาะสมกับชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้าเท่านั้นคำถาม                                   คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้ามีคุดณลักษณะชีวิตเป็นเช่นไร ?
คำเชื่อม                                 จากพระธรรม 2 โครินธ์ 5.14 – 18    ได้ชี้ให้เราเห็นถึงลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ที่เราจำเป็นต้องรู้ เข้าใจ  และมีคุณลักษณะของคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า   อย่างน้อย 3 ประการดังต่อไปนี้….คำไข                                      “ลักษณะ
โครงเรื่อง1.              ลักษณะที่หนึ่ง เป็นชีวิตที่ตายแล้ว   ( ข้อ 14 )
1.1      ลักษณะของคนตาย1.2      ลักษณะการตายฝ่ายวิญญาณ1.3      บทเรียน2.              ลักษณะที่สอง เป็นชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นใหม่    ( ข้อ 17 )
2.1      โดยการเข้าสนิทในพระคริสต์2.2      โดยต้องการระยะเวลาในการสร้าง2.3      โดยการกระทำของพระเจ้าเพื่อเรา3.              ลักษณะที่สาม เป็นชีวิตที่อยู่เพื่อพระเจ้า  (15)
3.1      ความหมายของการอยู่เพื่อพระเจ้า3.2      จุดประสงค์ของการอยู่เพื่อพระเจ้าสรุป / การประยุกต์ใช้ทักทาย                พี่น้องทั้งหลายเราเป็นคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า  อาเมน  ๆ ๆ ๆ ๆ  ขอพระพรของพระเจ้าทรงโปรดประทานมาเหนือผู้ที่เป็นคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าในค่ำคืนนี้อ่านพระธรรม      2 โครินธ์  5 . 14 – 18
เพราะว่าความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่ เพราะเราคิดเห็นอย่างนี้ว่ามีผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง เหตุฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว     และพระองค์ได้ทรงวายพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง เพื่อคนเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่จะมิได้อยู่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย      เหตุฉะนั้นตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่พิจารณาผู้ใดตามมาตรฐานของโลก แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีก      เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น      ทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกันชักจูงความสนใจดอนเฟล็มมิ่งได้อธิบายว่า  “ทั้งพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ต่างก็ให้ความหมายว่า แผ่นดินพระเจ้าคือการปกครองของพระองค์ มิได้หมายถึงเขตดินแดนหรือประชาชนเหมือนที่เราเข้าใจ แต่หมายถึงอำนาจการปกครองของพระเจ้าผู้ที่เป็นผู้ครอบครอง พระเยซูคริสต์สอนว่าผู้ที่แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก็แสวงหาพระองค์ เพื่อพระองค์จะทรงปกครองในชีวิตของเขา ผู้ที่รับแผ่นดินของพระเจ้าก็ได้รับการปกครองของพระเจ้าในชีวิตของเขาด้วย ผู้ที่เข้าไปในแผ่นดินของรพะเจ้าก็ได้เข้าไปในชีวิตซึ่งพระเจ้าทรงปกครองเขา มนุษย์เป็นคนบาปอยู่ใต้การปกครองของมารซาตาน  เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงคงประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า โดยแสดงอำนาจการปกครองของพระเจ้า ทรงชนะมารซาตาน และทรงปลดปล่อยคนที่อยู่ในอำนาจของมัน ฤทธิ์อำนาจของพระองค์เป็นที่พิสูจน์ว่า แผ่นดินของพระเจ้าได้มาตั้งอยู่ท่ามกลางมนุษย์แล้ว
แผ่นดินของพระเจ้าเป็นการปกครองของพระเจ้าในชีวิตของผู้เชื่อ ดังนั้นคริสเตียนจึงเป็นคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ที่มีพระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ปกครองอยู่สร้างสรรค์ความต้องการ คริสเตียนหรือคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์นั้นย่อมมีชีวิตที่แตกต่างจากคนที่ไม่เป็นคริสเตียน คนที่อยู่ในการปกครองของพระเจ้าย่อมต่างจากคนที่อยู่ในการปกครองของมารซาตาน พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์ที่กางเขนเพื่อกระทำให้เราทั้งหลายมีคุณลักษณะชีวิตที่เหมาะสมกับแผ่นดินของพระเจ้า ในคืนนี้จึงอยากแบ่งในหัวเรื่อง ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าประโยคสรุปคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้านั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากลักษณะคนแห่งโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ลักษณะคนแห่งโลกนี้เหมาะสมกับชีวิตแห่งโลกนี้      ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าเหมาะสมกับชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้าเท่านั้น
คำถาม 
คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้ามีคุณลักษณะชีวิตเป็นเช่นไร ?
คำเชื่อมจากพระธรรม 2 โครินธ์ 5.14 – 18 ได้ชี้ให้เราเห็นถึงคุณลักษณะชีวิตคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ที่เราจำเป็นต้องรู้ เข้าใจ และมีคุณลักษณะของคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าอย่างน้อย 3 ประการดังต่อไปนี้….
1.              ลักษณะที่หนึ่ง เป็นชีวิตที่ตายแล้ว   ( ข้อ 14 )
พระคัมภีร์สอนว่ามีความตายสองอย่างคือ ความตายฝ่ายร่างกาย และความตายฝ่ายวิญญาณ คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าเป็นคนที่ตายแล้วต่อชีวิตเก่าของเขา เพราะว่าความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่ เพราะเราคิดเห็นอย่างนี้ว่ามีผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง เหตุฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว คำว่า จึงตายแล้ว   หมายถึง การตายจากชีวิตเก่าเพื่อไปสู่ชีวิตใหม่   ในความหมายของชีวิตฝ่ายวิญญาณ ไม่ได้หมายถึงฝ่ายร่างกาย  เพื่อเข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้นให้เรามาพิจารนา สองคำต่อไปนี้1.1.         ลักษณะของคนตายความตายฝ่ายร่างกายเป็นผลที่เกิดขึ้นจากความ ตายฝ่ายวิญาณ ( ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป ) เมื่อความตายเกิดขึ้น  ทุอย่างที่เกี่ยวกับกายก็หยุดกิจกรรมทั้งปวง  คนตายไม่เคลื่อนไหว คนตายไม่หายใจ คนตายไม่พูด  คนตายไม่มีความรู้สึก เป็นต้น
ตัวอย่างในงานศพของนักเลงคนหนึ่ง ถูกตำรวจวิสามัญ ในคดีค้ายาเสพติด ชาวบ้านที่มาร่วมในงานศพนั้นต่างก็ตั้งกลุ่มวิพากวิจารณ์  บางคนว่า ตายเสียได้ก็ดี”  บางคนก็กล่าวว่า มันทำให้ลูกหลานของเราต้องติดยาเสพติดจนเสียคนมานักต่อนักแล้วบ้างก็กล่าวเสีย ๆ หาย ๆ คำพูดเหล่านี้ หากเจ้าตัวยังไม่ตายคงต้องเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตแน่  แต่เนื่องจากเจ้าตัวเสียชีวิตแล้วจึงไม่สามารถรับรู้ หรือตอบโต้ได้เลย คงแตกตื่นกันแน่หากคนตายลูกขึ้นมาตอบกลับ

1.2.         ลักษณะของการตายฝ่ายวิญญาณคริสเตียนคือคนที่ตายจากชีวิตเก่าเพื่อเข้าสู่ชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์  คำว่าความตายฝ่ายวิญญาณ หมายถึง การที่มนุษย์ถูกตัดขาดจากการมีความสัมพันธ์ต่อพระเจ้า เพราะการทำบาป ฉะนั้นบาปทำให้มนุษย์ต้องตายฝ่ายวิญญาณหรือถูกแยกออกจากพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์มนุษย์เป็นคนบาป  เมื่อมนุษย์เลือกที่จะเชื่อฟังซานตานมนุษย์ก็ขาดจากพระเจ้า และตกอยู่ใต้อำนาจของมัน ซาตานคือผู้ครอบครองอาณาจักรแห่งความตาย แต่พระเยซูคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนเพื่อช่วยมนุษย์ให้ให้ได้มีชีวิตใหม่อยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า
ดังนั้นความตายฝ่ายวิญญาณจึงเป็นการถูกแยกออกจากพระเจ้า ขาดความสัมพันธ์กับพระองค์ และตกอยู่ในความบาป วิธีเดียวเท่านั้นที่มนุษย์จะมีชีวิตได้อีกคือ ต้องมีผู้หนึ่งที่ตายไถ่บาปของเขา หรือตายแทนเขา และพระเยซูคริสต์พระองค์ทรงกระทำดังนั้น อาจารย์เปาโลจึงประกาศอย่างชัดเจนว่า มีผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง เหตุฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว
1.3.         บทเรียนคริสเตียน หรือคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า  คือคนที่ตายจากชีวิตเก่าแล้ว เป็นคนที่ตายแล้ว เมื่อเราทั้งหลายเป็นคนที่ตายจากชีวิตเก่าแล้ว เหตุไฉนเราจึงดำเนินชีวิตในความบาปอีก  ทำไมเมื่อมีคนมาว่ากล่าวตักเตือนหรือ ชี้ให้เราเห็นความบกพร่องหรือความผิดพลาดของตนเองเราจึงโกรธและโต้ตอบ  คนที่ตายแล้วไม่สามารถตอบโต้คนที่วิพากวิจารณ์ได้ฉันใด คริสเตียนเตียนที่ตายต่อชีวิตเก่าแล้วจะยินดีและพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองฉันนั้นคริสเตียนจะต้องตายจากชีวิตเก่าอย่างแท้จริง คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าจะต้องเป็นคนที่ตายต่อชีวิตเก่า ตายจากความผิดบาปแล้วจงยอมรับการตำหนิติเตือน ตักเตือนว่ากล่าว เพราะเราคือคนแห่งแผ่นดินพระเจ้า และลักษณะคนแห่งแผ่นดินพระเจ้าประการต่อมาคือ2.              ลักษณะที่สอง เป็นชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นใหม่    ( ข้อ 17 )
เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น      ทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกันคนแห่งแผ่นดินพระเจ้าไม่เพียงจะต้องตายจากชีวิตเก่าแล้วเท่านั้น แต่ต้องได้รับการสร้างชีวิตใหม่จากผู้ปกครองแผ่นดินของพระเจ้าทันที เพื่อจะเข้าอยู่ในแผ่นดินของพระองค์ ข้าพเจ้าดูภาพยนต์เรื่องชีวิตของพระนางเอสเธอร์ เมื่อพระนางถูกเลือกให้เป็นราชินีของกษัตริย์อาหุสเอรัส แห่งประเทศเปอร์เชีย  ก่อนที่พระนางจะเข้ารับตำแห่ง พวกข้าราชบริภารจะนำตัวพระนางไปอาบน้ำชำระ ตกแต่ด้วยเครื่องแต่งกายใหม่ เหมือนกับทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งให้กลายเป็นคนพิเศษขึ้นมาทันที เพราะว่าพระนางจะต้องเป็นราชินีของกษัตริย์ ไม่ใช่นางสาวเอสเธอร์อีกต่อไป แต่นี้ไปคือพระชาชินีเอสเธอร์ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์นั้นได้ตายจากชีวิตเก่าแล้วและจะต้องถูกสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า หรือบางคนบอกว่า เราเป็นราชโอรสและราชธิดาของกษัตริย์แห่งสวรรค์  คริสเตียนจะได้รับการสร้างชีวิตใหม่อย่างไร
2.1.         โดยการเข้าสนิทในพระคริสต์เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว”   คำว่า อยู่ในพระคริสต์ มีความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระคริสต์  “จงเข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน” พระเยซูคริสต์ทรงเรียกร้องให้ผู้ที่เชื่อพระองค์มีชีวิตที่ติดสนิทกับพระองค์เพื่อรับการสรางชีวิตใหม่ เพื่อเป็นคนใหม่ เป็นคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้า ไม่ใช่คนของโลกนี้หรือของมารซาตานอีกต่อไป  เราเป็นคนใหม่ทันทีหรือไม่อย่างไร
2.2.         โดยต้องการระยะเวลาในการสร้างพระคัมภีร์กล่าวว่า สิ่งสารพัดเก่าๆ ก็ล่วงไปนี่แนะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น   การที่จะเข้าใจความหมายของประโยคนี้ได้นั้นเราต้องพิจารนาอยู่สองคำคือ2.2.1. การอัศจรรย์   คำว่าอัศจรรย์ พจนานุกรมได้ให้ความหมายว่า แปลก ประหลาด กล่าวคือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันทีทันใด แปลกประหลาดมาก เมื่อมาเชื่อพระเยซูคริสค์เราเป็นคนใหม่ในพระองค์ และความบาป หรือชีวิตเก่าของเรานั้นได้รับการอภัยหมดแล้ว เป็นความอัศจรรย์ในชีวิตของคนที่เชื่อพระเจ้า ความบาปรับการอภัย เป็นการอัศจรรย์ ชีวิตเก่าได้รับการอภัยเป็นการอัศจรรย์ และอีกคำที่ต้องเข้าใจคือ
2.2.2.  การรักษา  การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในชีวิตของผู้เชื่อนั้นเป็นเหมือนกับการรักษาโรค ที่ต้องการระยะเวลาในการรักษา การสร้างต้องการเวลาด้วยเช่นกัน   อาจารย์เปาโลเรียกร้องให้คริสตจักรกรุงโรมรับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า  เพื่อจะทราบน้ำพระทัยพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม                  ดังนั้นความบาปของเราที่เราเคยทำ ชีวิตเก่า จึงเป็นการอัศจรรย์ แต่การรักษาคือ ขบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังถูกสร้างขึ้นใหม่ในองค์พระเยซูคริสต์
                ให้เราบอกกับตัวเองว่า ฉันเปลี่ยนได้ ฉันต้องทำได้  และให้เราบอกกับคนที่อยู่ข้างๆ เราว่า คุณเปลี่ยนได้ คุณก็ทำได้  บัดนี้เรากำลังถูกสร้างใหม่เพื่อเป็นคนใหม่ อาเมน2.3.         โดยการกระทำของพระเจ้าเพื่อเราทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกัน
การกลับคืนดีกับพระเจ้าเป็นเป้าหมายขอการสร้างชีวิตใหม่ เพื่อเป็นประชากรของพระเจ้าอย่างเต็มรูปแบบ การกลับคืนดีกับพระเจ้าไม่ใช่เป็นเพราะเราทั้งหลายเป็นคนเลือกเอง หรือกระทำเอาเอง แต่ทั้งสิ้นนี้เกิดจากพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้กระทำให้เราทั้งหลายกลับคืนดีกับพระเจ้า เพื่อเป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้า   ผู้เขียนพระธรรมสดุดี กล่าวไว้อย่างลึกซึ้งว่า “จงรู้เถิดว่า  พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า  
 คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย   และเราก็เป็นของพระองค์ เราเป็นประชากรของพระองค์   เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์”
 คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย   และเราก็เป็นของพระองค์ เราเป็นประชากรของพระองค์   เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์”  คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย   และเราก็เป็นของพระองค์ เราเป็นประชากรของพระองค์   เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์”  
ฉะนั้นคริสเตียนจะต้องได้รับการสร้างชีวิตใหม่เพื่อมีคุณลักษณะชีวิตที่เหมาะสมกับแผ่นดินของพระเจ้า เพราะเราเป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้า และคุณลักษณะชีวิตของคนในแผ่นดินของพระเจ้าประการสุดท้ายคือ
3.              ลักษณะที่สาม เป็นชีวิตที่อยู่เพื่อพระเจ้าและพระองค์ได้ทรงวายพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง เพื่อคนเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่จะมิได้อยู่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย”   หน้าที่อันสำคัญของผู้ที่จะเป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้าคือ การมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า ให้เรามาทำความเข้าใจกับคำว่าการมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าว่าหมายความว่าอย่างไร ทำไมเราต้องอยู่เพื่อพระเจ้า3.1.         ความหมายของการอยู่เพื่อพระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงให้ความหมายของการอยู่เพื่อพระเจ้า โดยการกระทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่คำอธิบายหรือคำบอกเล่า การกระทำของพระองค์ทำให้เราเห็นและเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้านั้นคือการยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อรับใช้พระเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงวางแบบอย่าง โดยพระองค์ตรัสว่า ด้วยว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติแต่ท่านมาเพื่อปรนนิบัติเขาและประทานชีวิตเป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก” (มาระโก 10.45)
หน้าที่ของการมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าจึงเป็นการที่เราจะต้องรับใช้พระเจ้า เพราะนี่เป็นหน้าที่ของประชากรในแผ่นดินของพระเจ้า หน้าที่ของคนไทยคือการรับใช้ชาติบ้านเมืองของไทย เราจะทำทุกอย่างเพื่อรับใช้พระมหากษัตริย์ของประเทศไทยฉันใด คริสเตียน ประชากรของแผ่นดินพระเจ้าจะต้องรับใช้พระเจ้า3.2.         จุดประสงค์ของการอยู่เพื่อพระเจ้าจุดประสงค์ที่สำคัญของการมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าคือ การมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น หรือกล่าวได้ว่า การรับใช้พระเจ้าคือการรับใช้คนอื่น หรือ การมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าคือการมีชีวิตอยู่เพื่อนอื่น  นี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับประชากรแห่งแผ่นดินพระเจ้า  เราจะต้องมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพื่อประโยชน์ของกันและกัน       ( เพราะเห็นแก่เข้าทั้งหลาย ) 
ให้เรามาดูว่าพระคัมภีร์กล่าวว่าอย่างไรเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า / เพื่อคนอื่น-                   ยน 11.44  จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือกันและกัน ไม่ใช่ซ้ำเติมผู้ตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "จงแก้ผ้าที่พันออกเสีย แล้วปล่อยเขาเถิด"-                   มธ 10 . 42 แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยและถ้าผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง ให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม เพราะเป็นศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้"-                   1 ยน 4 . 11-12  เราควรรักกันอย่างที่พระเจ้าทรงรักเราท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนั้น เราก็ควรจะรักซึ่งกันและกันด้วย     ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา-                   มธ 28 . 19-20   นำข่าวประเสริฐไปสูผู้ที่ยังไม่เชื่อเหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์      สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค"                ปัจจุบันนี้มีหลายคนกล่าว่า อยากรับใช้พระเจ้าแต่ไม่อยากเกี่ยวข้องกับมนุษย์  อาจทำได้ด้วยการอธิษฐานคนเดียวอยู่ที่บ้านและไม่พบเจอใครทั้งนั้น ทำตัวเป็นเหมือนพวกลัทธิอยู่อาราม หรือเป็นเหมือนพวกฤษี แม่ชีเป็นต้น แต่นั่นไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับคนในแผ่นดินของพระองค์  ฉะนั้นการรับใช้พระเจ้าคือการรับใช้คนอื่น ให้เราตั้งใจรับใช้พระเจ้าด้วยความเต็มใจ อย่ามีชีวิตอยู่เพื่อประโยชน์ของตนเองอีกเท่านั้น แต่จงมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น เพราะนี่คือการมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าสรุปและการประยุกต์ใช้คนแห่งแผ่นดินของพระเจ้านั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากลักษณะคนแห่งโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ลักษณะคนแห่งโลกนี้เหมาะสมกับชีวิตแห่งโลกนี้      ลักษณะคนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าเหมาะสมกับชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้าเท่านั้น ซึ่งมีคุณลักษณะชีวิตดังนี้
1.             เป็นชีวิตที่ตายจากบาปแล้ว2.             เป็นชีวิตที่ได้รับการสร้างใหม่3.             เป็นชีวิตที่อยู่เพื่อพระเจ้า (เพื่อคนอื่น)
กษัตริย์องค์หนึ่ง ได้จัดการเลี้ยงเนื่องในพิธีอภิเษกมเหสีให้ราชโอรสของท่าน แล้วใช้ข้าราชการไปตามผู้ที่รับเชิญในการนี้ บอกว่าเราได้จัดการเลี้ยงไว้แล้ว ทั้งวัวและสัตว์ขุนของเราก็ฆ่าไว้เสร็จ สิ่งสารพัดก็เตรียมไว้พร้อม จงมาในการอภิเษกนี้เถิด  แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จทอดพระเนตรแขก ก็เห็นผู้หนึ่งมิได้สวมเสื้อสำหรับงาน   จึงรับสั่งถามว่า "สหายเอ๋ย เหตุไฉนจึงมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานแต่งงาน" ผู้นั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก   กษัตริย์จึงรับสั่งแก่พวกข้าราชการว่า "จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก อันเป็นที่ที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน"
พี่น้องทั้งหลายท่านเป็นคนที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับแผ่นดินของพระเจ้าหรือยัง ท่านพร้อมหรือไม่ที่เข้าไปยังแผ่นดินของพระเจ้า เพราะในแผ่นดินนี้เตรียมไว้สำหรับคนที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมเท่านั้น  พระเยซูคริสต์ทรงประทานคุณลักษณะนี้ให้แก่เราทั้งหลาย ฉะนั้นให้เราขอบคุณพระเจ้า ไม่ใช่คุณงามความดี ไม่ใช่ความสามารถของเรา และไม่ใช่การกระทำของเราทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อเราพี่น้องที่ยังไม่เป็นคริสเตียน ในวันนี้ท่านได้ยินได้ฟังแล้วว่า จะเข้าไปในแผ่นดินของพระเจ้าได้อย่างไร หากท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีจริงและท่านกำลังแสวงหาพระองค์ ข้าพเจ้าขอถามท่านว่า มีอะไที่ทำให้ท่านไม่สามารถมอบชีวิตของท่านให้กับพระองค์เพื่อเป็นประชากรแห่งแผ่นดินของพระเจ้าเล่า หากท่านปารถนา และท่านเชื่อในพระองค์ จงต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาเป็นพระผู้ช่วยของท่านเดี๋ยวนี้ ….

ในขณะที่ดนตรีบรรเลงนี้ ให้ท่านก้าวออกมาข้างหน้าที่ประชุม ….. ให้ท่านอธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์ตามข้าพเจ้า …… (จบด้ายการอธิษฐาน และกล่าวแสดงความยินดี ต้อนรับประชากรใหม่เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า .. คุณคือคนที่มีคุณลักษณะชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแล้ว)