โครงร่างคำเทศนา
วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2019
หัวเรื่อง จงลุกขึ้นทำพันธกิจมิชชั่น
พระธรรม กิจการ 13:1-3,
มัทธิว 28:19-20
1 เวลานั้นคริสตจักรที่อยู่ในเมืองอันทิโอกมีบางคนที่เป็นผู้เผยพระวจนะและอาจารย์ คือบารนาบัส สิเมโอนที่เรียกว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอนผู้ได้รับการเลี้ยงดูเติบโตขึ้นด้วยกันกับเฮโรดเจ้าเมือง และเซาโล 2 ระหว่างที่เขาทั้งหลายกำลังนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและถืออดอาหารอยู่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสสั่งว่า “จงตั้งบารนาบัสกับเซาโลไว้สำหรับงานที่เราเรียกให้พวกเขาทำนั้น” 3 หลังจากถืออดอาหารและอธิษฐานแล้ว เขาทั้งหลายวางมือบนตัวบารนาบัสกับเซาโล แล้วส่งท่านทั้งสองไป
19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ 20 และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
คำนำ งานรำลึก 100 ปี หมอบริกส์
วันที่ 22.02.2019 + ชมวีดีโอประวัติการทำงานของหมอบริกส์
1.
ความหมายของการทำพันธกิจมิชชั่น
1.1.
ความเข้าใจทั่วไปคือ
การออกไปเป็นมิชชั่นนารีต่างบ้านต่างเมือง
1.2.
ในพระธรรมกิจการให้มุมมองคือ
การส่งออกไปประกาศข่าวประเสริฐ บุกเบิกก่อตั้งคริสตจักร และพันธกิจด้านอื่นๆควบคู่ ไปยังต่างบ้าน ต่างเมือง ต่างภาษาวัฒนธรรม
ที่ยังไม่มีผู้เชื่อ
2.
ความสำคัญของการทำพันธกิจมิชชั่น
2.1.
เป็นแผนการของพระเจ้าพระบิดา ปฐก
12.1-3, กท 3.8
1 พระยาห์เวห์ตรัสแก่อับรามว่า “เจ้าจงออกจากดินแดนของเจ้า จากญาติพี่น้องของเจ้า จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะสำแดงแก่เจ้า 2 เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรเจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โต แล้วเจ้าจะเป็นพร 3 เราจะอวยพรคนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า”
8 และพระคัมภีร์นั้นรู้ล่วงหน้าว่า พระเจ้าจะทรงให้คนต่างชาติเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ จึงได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่อับราฮัมล่วงหน้าว่า ชนทุกชาติจะได้รับพรเพราะเจ้
2.2.
เป็นพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ให้เราทำ
มธ 28.19-20, มก 16.15, 2 ปต 3.9
19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ 20 และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
15 พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกว่า “พวกท่านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน
9 องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่ทรงอดทนกับพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่
2.3.
เป็นการขับเคลื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ กจ 13.1-3
1 เวลานั้นคริสตจักรที่อยู่ในเมืองอันทิโอกมีบางคนที่เป็นผู้เผยพระวจนะและอาจารย์ คือบารนาบัส สิเมโอนที่เรียกว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอนผู้ได้รับการเลี้ยงดูเติบโตขึ้นด้วยกันกับเฮโรดเจ้าเมือง และเซาโล 2 ระหว่างที่เขาทั้งหลายกำลังนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและถืออดอาหารอยู่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสสั่งว่า “จงตั้งบารนาบัสกับเซาโลไว้สำหรับงานที่เราเรียกให้พวกเขาทำนั้น” 3 หลังจากถืออดอาหารและอธิษฐานแล้ว เขาทั้งหลายวางมือบนตัวบารนาบัสกับเซาโล แล้วส่งท่านทั้งสองไป
2.4.
เป็นเป้าหมายของคริสตจักรพระคุณเชียงราย
คริสตจักรที่เป็นฐานทัพ ด้านการถวาย
ด้านการประกาศ ด้านการสร้างบุคลากรในภูมิภาคสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ
3.
เราจำทำพันธิจมิชชั่นเมื่อไร อย่างไร?
3.1.
เริ่มทันทีโดยการอธิษฐานและการถวาย (ท้าทายกลุ่มเซลล์ปี
2019)
3.2.
เริ่มทันทีโดยการช่วยเหลือบุคลากรเพื่องานมิชชั่น
(ขอบคุณพี่น้องที่ช่วยนักศึกษา)
3.3.
แสวงหาการทรงเรียกและการทรงนำเพื่องานมิชชั่น
กจ 13.1-3 (มีพี่น้องบางคนได้ถวายตัวเป็นมิชชั่น)
3.4.
ออกไป โดยจัดมิชชั่นทีม (เหมือนไต้หวันมามิชชั่นบ้านเรา)
สรุป
งานมิชชั่น
เป็นหัวใจของพระเจ้า พระบิดาพระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
ให้เรานำความรักของพระเจ้าไปสู่คนทั้งโลก
วันนี้ให้เราเริ่มลุกขึ้นทำพันธกิจมิชชั่น ตอบสนองพระทัยของพระองค์