วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สิทธิและหน้าที่ ตอนที่ 2 การเป็นสมาชิกคริสตจักร 1 โครินธ์ 1.1-3, อฟ 1.1, ฟป 1.1


โครงร่างคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2019
หัวเรื่อง                 สิทธิและหน้าที่  ตอนที่ 2 การเป็นสมาชิกคริสตจักร
พระธรรม              1 โครินธ์ 1.1-3, อฟ 1.1, ฟป 1.1
คำนำ
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว  ในพระเยซูคริสต์เรามีทั้งสิทธิ และหน้าที่ด้วยกันทุกคนตามตำสอนในพระวจนะของพระเจ้า วันนี้เรามาต่อในตอนที่ 2 สิทธิและหน้าที่การเป็นสมาชิกคริสตจักร (คริสตจักรพระคุณเชียงราย)
1.              ความหมาย “สิทธิและหน้าที่การเป็นสมาชิกคริสตจักร”
1.1.         คำว่า “คริสตจักร” หมายถึงผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ทุกคน   และคำว่า “คริสตจักรท้องถิ่น” หมายถึงผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ทุกคนที่ผูกพันตัวเองเข้าเป็นครอบครัวเดียวกันในท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง เช่น “คริสตจักรพระคุณเชียงราย, คริสตจักรพระคุณห้วยขม, คริสตจักรน้ำลัด, คริสตจักรทวีรัตน์”
1.2.         คำว่า “สิทธิการเป็นสมาชิก” คือ สิทธิที่เราจะได้รับอย่างเสมอภาคกันในคริสตจักรท้องถิ่นนั้นๆ
1.3.         คำว่า “หน้าที่การเป็นสมาชิก” คือ บทบาทความรับผิดชอบที่ควรทำซึ่งอาจเหมือนหรือจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เช่น หน้าที่การเป็นศิษยาภิบาล  หน้าที่การเป็นมัคนายก หรือทีมนมัสการ เป็นต้น
1.4.         คำว่า “สมาชิก” สามารถแบ่งได้หลายลักษณะ เช่น ผู้รับใช้, สมาชิกสมบูรณ์, สมาชิกสำรอง, สมาชิกจร เป็นต้น
2.              ในคริสตจักร (พระคุณเชียงราย) เรามีสิทธิอะไร
2.1.         สิทธิในด้านฝ่ายวิญญาณ 
2.1.1.    การเป็นส่วนของพระกายและความเสมอภาคกัน  รม 12.4-5
2.1.2.    การรับการเสริมสร้าง การสามัคคีธรรมต่างๆ  กจ 4.32-37
2.1.3.    การออกความคิดเห็นและการลงวินัยของคริสตจักร  1 คร 5.1-5
2.2.         สิทธิในด้านการใช้ทรัพย์พยากรณ์ต่างๆของคริสตจักร
2.2.1.    การใช้สถานที่และทรัพย์สิ่งของต่างๆ ของคริสตจักร  เช่นใช้สถานที่แต่งงาน
2.2.2.    การได้รับสิทธิประโยชน์จากการสงเคราะห์ของคริสตจักร (กองทุนความรัก, โรงเรียนจีน) 1 ทธ 5.9-10
2.2.3.    การได้รับศาสนพิธีต่างๆของคริสตจักร
2.2.4.    การใช้สุสานของคริสตจักร
2.2.5.    การเข้าถึงสวัสดิการออมทรัพย์ของคริสตจักร  กจ 2.43-47
3.              ในคริสตจักร (พระคุณเชียงราย) เรามีหน้าที่อะไร
3.1.         ร่วมนมัสการ สามัคคีธรรม การอธิษฐาน  เข้ากลุ่มเซลล์   กจ 2.43-47
3.2.         ร่วมรับใช้ในตำแหน่งต่าง เช่น มัคนายก ครูรวี หัวหน้ากลุ่มเซลล์ ทีมนมัสการ เป็นต้น ทต 1.5, 1ทธ 3.1
3.3.         ร่วมรับใช้พันธกิจของคริสตจักรตามของประทาน   รม 12.6-8
3.4.         ร่วมการถวายสิบลด และถวายพิเศษเพื่อพันธกิจ   1 คร 16.1-4
3.5.         ร่วมกันพัฒนาอาคารสถานที่ของคริสตจักร
สรุป        ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อ จำเป็นเราต้องผูกพันตัวเราเข้าเป็นครอบครัวของคริสตจักรท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง เพื่อจะได้มีทั้งสิทธิและหน้าที่ที่รับผิดชอบร่วมกัน และเพื่อสร้างคริสตจักรท้องถิ่น (ครอบครัว) ที่เข้มแข็งและอบอุ่นในพระเยซูคริสต์     ข้อคิด : อย่าเป็นคริสเตียนจร แต่จงผูกพันตัวเองเข้าเป็นครอบครัวของพระเจ้าในคริสตจักรท้องถิ่นนั้นๆ

สิทธิและหน้าที่ ตอนที่ 1 การเป็นคริสเตียน กาลาเทีย 5.1, 1 เปโตร 2.16


โครงร่างคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2019
หัวเรื่อง                 สิทธิและหน้าที่  ตอนที่ 1 การเป็นคริสเตียน
พระธรรม              กาลาเทีย 5.1, 1 เปโตร 2.16
คำนำ
ตอนนี้ธรรมนูญคริสตจักรได้รับการเห็นชอบแล้ว เพื่อการใช้ธรรมนูญให้เกิดประโยชน์ เราจำเป็นต้องใคร่ครวญถึงสิทธิและหน้าที่ของเราในพระเยซูคริสต์และในคริสตจักรพระคุณเชียงรายให้เข้าใจตามหลักการพื้นฐานที่พระคัมภีร์สอนไว้
1.              ความหมายสิทธิและหน้าที่ การเป็นคริสเตียน
1.1.         คำว่า “คริสเตียน”  หมายถึงผู้ที่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ (กจ 11.27)
1.2.         คำว่า “สิทธิ”  หมายถึงอำนาจที่จะกระทำการใดๆ ได้อย่างอิสระ โดยได้รับจากการทรงไถ่ของพระเยซูคริสต์
1.3.         คำว่า “หน้าที่” หมายถึงกิจที่ควรทำซึ่งได้รับมอบหมายจากพระเยซูคริสต์ เช่น การนมัสการพระเจ้า  หรือการประกาศข่าวประเสริฐ
2.              ในพระเยซูคริสต์เรามีสิทธิอะไร
2.1.         สิทธิแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้า   ยน 1.12
2.2.         สิทธิการเป็นทายาทรับมรดก รม 8.17,  กท 4.7 , ยก 2.5
2.3.         เสรีภาพในการดำเนินชีวิต  กท 5.1
2.4.         การหลุดพ้นจากบาปและคำสาปแช่ง   คส 2.14-15
2.5.         ได้รับชีวิตนิรันดร์ไม่ต้องถูกพิพากษา  ยน 3.16-17
2.6.         เป็นชนชาติบริสุทธิ์แด่พระเจ้า 1 ปต 2.9, อฟ 2.19
2.7.         สิทธิอำนาจในฝ่ายวิญญาณ  มธ 18.18-19
2.8.         และอื่นๆ อีกมากมาย
3.              ในพระเยซูคริสต์เรามีหน้าที่อะไร
3.1.         การถวายเครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณ  1 ปต 2.5,9
3.2.         รักเคารพเทิดทูนพระเจ้า  มก 12.30
3.3.         การประกาศข่าวประเสริฐ  มธ 28.19-20
3.4.         การรักษาพระบัญญัติของพระคริสต์  ยน 13.34
3.5.         การรับใช้ตามของประทานที่พระวิญญาณประทานให้  รม 12.6, 1 คร 12.8
3.6.         การกระทำความดี  อฟ 2.10
3.7.         และอื่นๆ อีกมากมาย
สรุป
ในพระเยซูคริสต์เรามีทั้งสิทธิและหน้าที่    ในตอนที่ 2 จะกล่าวถึงสิทธิและหน้าที่การเป็นสมาชิกคริสตจักร



วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ทัศนะของคริสเตียนต่อชีวิตหลังความตาย

โครงร่างคำเทศนา 
หัวข้อ              ทัศนะของคริสเตียนต่อชีวิตหลังความตาย
พระธรรม
คำนำ
-                   นักปรัชญากรีกกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า “จงกินดื่มและหาความสุข ควารื่นเริง เพราะพรุ่งนี้คุณอาจตายได้” ทัศนะนี้ไม่ให้ความสนใจว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นเช่นไร
-                   กฎแห่งกรรมสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มนุษย์เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม ทัศนะนี้ให้ความสนใจกับชีวิตหลังความตาย
-                   ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต  เพราะมนุษย์มีชีวิตที่เรียกว่าจิตวิญญาณ การตายเป็นเพียงการแยกจากกันของกายและวิญญาณ เพราะสังขารของกายมีความจำกัด ส่วนจิตวิญญาณนั้นดำรงเป็นนิตย์ คริสตเตียนมีทัศนะต่อชีวิตหลังความตายอย่างไร  เรามาใคร่ครวญจากพระวจนะของพระเจ้า
1.            ความตายเป็นการกลับคืนสู่พระเจ้าพระผู้สร้าง  โยบ 34.14-15
ถ้าพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่กับมนุษย์ และทรงรวบรวมวิญญาณและลมปราณของเขากลับมาสู่พระองค์  เนื้อหนังทั้งสิ้นก็จะพินาศไปด้วยกัน และมนุษย์ก็จะกลับไปเป็นผงคลีดิน

1.1.     เบื้องหลังการทรงสร้างมนุษย์  ปฐมกาล 2.7
พระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ทรงระบายลมปราณแห่งชีวิตเข้าทางจมูกของเขา และมนุษย์จึงเกิดเป็นจิตวิญญาณมีชีวิตอยู่
1.2.     เมื่อเวลาของพระเจ้ามาถึง   โยบ 14.5, สดด 39.5
วันเวลาของเขาถูกกำหนดไว้เสียแล้ว และจำนวนเดือนของเขาก็อยู่กับพระองค์ พระองค์ทรงกำหนดขอบเขตของเขาไม่ให้เขาผ่านไปได้
ดูเถิด พระองค์ทรงกระทำให้วันเวลาของข้าพระองค์ยาวสองสามฝ่ามือเท่านั้น ชั่วชีวิตของข้าพระองค์ไม่เท่าไรเลยเฉพาะพระพักตร์พระองค์ มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่อย่างไร้สาระแน่ทีเดียว
2.            ความตายเป็นการได้กำไร  ฟิลิปปี  1.21
พราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร
2.1.     เบื้องหลังของคำพูดนี้ 
2.2.     ลักษณะของกำไร  ฟป 3.14,  2 ทธ 4.8
ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับในพระเยซูคริสต์
ตั้งแต่นี้ไป มงกุฎแห่งความชอบธรรมก็เตรียมไว้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่รักการเสด็จมาของพระองค์
3.            ความตายเป็นการก้าวเข้าสู่ชีวิตที่ดีกว่า  ฟิลิปปี 1.23
ข้าพเจ้าลังเลใจอยู่ในระหว่างสองฝ่ายนี้ คือว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาที่จะจากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก
3.1.     ได้หลุดพ้นจากกฎแห่งกรรม  คส 2.14
พระองค์ทรงลบกรมธรรม์ในข้อบัญญัติต่างๆที่ต่อต้านเราอยู่ ซึ่งขัดขวางเราและได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้น โดยทรงตรึงไว้ที่กางเขนของพระองค์
3.2.     ได้หลุดพ้นจากสังขารของโลกนี้  วว 21.4
พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว"
3.3.     ได้เป็นเหมือนที่พระเจ้าทรงเป็น  1 คร 13.12
เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แต่ส่วนหนึ่ง แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนได้รู้จักข้าพเจ้าแล้วด้วย
สรุป
พระเยซูคริสต์ตรัสว่า  (ยอห์น 14.1-3) 1 "อย่าให้ใจท่านทั้งหลายวิตกเลย ท่านเชื่อในพระเจ้า จงเชื่อในเราด้วย 2 ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีคฤหาสน์หลายแห่ง ถ้าไม่มีเราคงได้บอก