วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

รักพระเจ้าอย่างไรไม่ให้พระเจ้าเสียเกียรติ ข้อพระธรรม ฉธบ 6.5, มธ 22.37

 

โครงร่างคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2020

 

หัวเรื่อง                        รักพระเจ้าอย่างไรไม่ให้พระเจ้าเสียเกียรติ

ข้อพระธรรม    ฉธบ 6.5, มธ 22.37

Deut 6:5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน

Matt 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า

 

คำนำ              

ถ้าเรามองสังคมไทยเวลานี้ จะเห็นได้ว่ามีการแตกแยก และมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้น ด้านหนึ่งเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปสถาบันฯ และถูกกล่าวหาว่าล้มเจ้า อีกด้านหนึ่งทำการปกป้องจนถูกเรียกว่าคลั่งเจ้า ดังปรากฏในข่าว สวมเสื้อเหลือง ถือธงชาติ ถือรูป ร. 9 และ ร.10 แล้วรุมทำร้ายคนอื่นจึงเกิดคำถามต่างๆมากมาย

เมื่อตอนเป็นเด็กนักเรียน มักจะถูกเพื่อล้อว่า “เชื่อพระเยซูกินหัวปลาทู” (สมัยนี้ปลาทูแพงมาก) แรกๆ ก็อดทน ต่อมาก็เริ่มมีปากเสียง และจบลงด้วยการชกต่อยกัน   แต่เดี๋ยวนี้โตแล้วรู้ว่าควรทำอะไรอย่างไรเมื่อมีความเห็นต่างทางความเชื่อ

คำถาม             เราจะรักพระเจ้าอย่างโดยไม่ให้พระเจ้าเสียเกียรติ

1.            อย่ารักพระเจ้าแค่คำพูดแต่จงรักด้วยการกระทำ ( อสย 29.13, มธ 15.8, มก 7.6 )

Isa 29:13 และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าเพราะชนชาตินี้เข้ามาใกล้ด้วยปากของเขา และให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากของเขา แต่เขาให้จิตใจของเขาห่างไกลจากเรา เขายำเกรงเราเพียงแต่เหมือนเป็นบัญญัติของมนุษย์ที่ท่องจำกันมา

Matt 15:8 ประชาชนนี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของเขาห่างไกลจากเรา

Mark 7:6 พระองค์ตรัสตอบเขาว่าอิสยาห์ได้พยากรณ์ถึงพวกเจ้าคนหน้าซื่อใจคด ก็ถูกตามที่ได้เขียนไว้ว่า ประชาชนนี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของเขาห่างไกลจากเรา

1.1.     อะไรคือรักพระเจ้าแค่คำพูด ( อสย 1.10-15 )

10 ดูก่อนท่านผู้ปกครองเมืองโสโดม  จงฟังพระวจนะของพระเจ้าดูก่อนท่านประชาชนเมืองโกโมราห์จงเงี่ยหูฟังพระธรรมของพระเจ้าของเรา  11 พระเจ้าตรัสว่าเครื่องบูชาอันมากมายของเจ้านั้นจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เราเราเอือมแกะตัวผู้อันเป็นเครื่องเผาบูชาและไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้นั้นแล้วเรามิได้ปีติยินดีในเลือดของวัวผู้ หรือลูกแกะหรือแพะผู้  12 เมื่อเจ้าเข้ามาเฝ้าเราผู้ใดขอให้เจ้าทำอย่างนี้ที่เหยียบย่ำเข้ามาในบริเวณพระนิเวศของเรา  13 อย่านำเครื่องถวายอนิจจังมาอีกเลยเครื่องบูชาอันเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อเราวันเทศกาลข้างขึ้นและวันสะบาโตและการเรียกประชุมเราทนต่อความบาปชั่วและการประชุมตามพิธีไม่ได้อีก  14 ใจของเราเกลียดวันเทศกาลข้างขึ้นของเจ้าและวันเทศกาลตามกำหนดของเจ้ามันกลายเป็นภาระแก่เราเราแบกเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว  15 เมื่อเจ้ากางมือของเจ้าออกเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเจ้า แม้ว่าเจ้าจะอธิษฐานมากมายเราจะไม่ฟังมือของเจ้าเปรอะไปด้วยโลหิต

1.1.1.            เบื้องหลังชนชาติอิสราเอล

1.1.2.            พระเยซูทรงตรัสถึงเรื่องนี้ด้วย

1.2.     อะไรคือรักพระเจ้าด้วยการกระทำ ( อสย 1.16-20 )

16 จงชำระตัว จงทำตัวให้สะอาดจงเอากรรมชั่วของเจ้าออกไปให้พ้นจากสายตาของเราจงเลิกกระทำชั่ว  17   จงฝึกกระทำดีจงแสวงหาความยุติธรรมจงบรรเทาผู้ถูกบีบบังคับจงป้องกันให้ลูกกำพร้าพ่อจงสู้ความเพื่อหญิงม่าย  18 พระเจ้าตรัสว่ามาเถิด ให้เราสู้ความกันถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวอย่างหิมะถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดงก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ  19 ถ้าเจ้าเต็มใจและเชื่อฟังเจ้าจะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน  20 แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธและกบฏเจ้าจะเป็นเหยื่อของคมดาบเพราะว่าพระโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสแล้ว

2.            อย่ารักพระเจ้าแค่คำพูดแต่ให้คนที่รักพระเจ้ารักพี่น้องของตนด้วย  ( 1 ยน 4.20-21 )

20 ถ้าผู้ใดว่าข้าพเจ้ารักพระเจ้าและใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็เป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่แลเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่ไม่เคยเห็นไม่ได้ 21 พระบัญญัตินี้เราทั้งหลายก็ได้มาจากพระองค์ คือว่าให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย

2.1.     สาเหตุให้คนที่รักพระเจ้ารักพี่น้องของตน ( 1 ยน 4.7,19 )

7 ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า

19 เราทั้งหลายรัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน

2.2.     จะรักพี่น้องของตนอย่างไร ( 1 ยน 3.15-18 )

15 ผู้ใดที่เกลียดชังพี่น้องของตนผู้นั้นก็เป็นผู้ฆ่าคน และท่านทั้งหลายก็รู้แล้วว่า ผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในเขาเลย 16 ดังนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง 17 แต่ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังใจจืดใจดำไม่สงเคราะห์เขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นอย่างไรได้ 18 ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

3.            อย่ารักพระเจ้าแค่คำพูดแต่จงรักพระเจ้าด้วยการรับใช้พระองค์ ( ยน 21.15-19 )

3.1.     คำถามที่พระเยซูถามเปโตร  “เจ้ารักเรามากกว่าสิ่งเหล่านี้หรือ”

3.2.     คำตอบของเปโตร  “ข้าพระองค์รักพระองค์”

3.3.     คำท้าทายของพระเยซู  “จงเลี้ยงดูลูกแกะของเราเถิด, จงตามเรามา”

15 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่าซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือเขาทูลพระองค์ว่าเป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์พระองค์ตรัสสั่งเขาว่าจงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด 16 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สองว่าซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือเขาทูลตอบพระองค์ว่าเป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์พระองค์ตรัสกับเขาว่าจงดูแลแกะของเราเถิด 17 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่าซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือเปโตรก็เป็นทุกข์ใจที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่าเจ้ารักเราหรือเขาจึงทูลพระองค์ว่าพระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่า ข้าพระองค์รักพระองค์พระเยซูตรัสกับเขาว่าจงเลี้ยงแกะของเราเถิด 18 เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า เมื่อเจ้ายังหนุ่มเจ้าคาดเอวของเจ้าเอง และเดินไปไหนๆ ตามที่เจ้าปรารถนา แต่เมื่อเจ้าแก่แล้ว เจ้าจะเหยียดมือของเจ้าออก และคนอื่นจะคาดเอวเจ้า และพาเจ้าไปที่ที่เจ้าไม่ปรารถนาจะไป

สรุป

ความรักเป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้แต่มีอยู่จริง ความรักพระเจ้าที่แท้จริงจะสำแดงออกมาในการดำเนินชีวิต การรักพี่น้องและการรับใช้ตามน้ำพระของพระเจ้าสำหรับแต่ละคน ตามของประทานที่พระวิญญาณทรงประทานให้