โครงร่างคำเทศนาวันอาทิตย์ที่
16 กรกฎาคม 2023
เรื่อง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันฝ่ายวิญญาณ
พระธรรม 1 เปโตร 5.8, ยูดาห์ 1.20-21
5:8 ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้
20 แต่ท่านที่รักทั้งหลาย จงสร้างตัวของท่านขึ้นบนความเชื่ออันบริสุทธิ์ที่สุดของท่าน และจงอธิษฐานโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ 21 จงรักษาตัวให้อยู่ในความรักของพระเจ้า ขณะคอยให้พระเมตตาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานำท่านไปสู่ชีวิตนิรันดร์
คำนำ
เราควรเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและดูดีอยู่เสมอ
เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยทำให้สูญเสียเวลาและเงินทองในการรักษา
และไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การมีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่เสมอย่อมป้องกันร่างกายจากโรคภัยต่างๆ
เช่นเดียวกับจิตวิญญาณของเรา ที่ต้องเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและดูดีอยู่เสมอ
เพื่อจะสามารถดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณอย่างมีประสิทธิภาพ
และปลอดภัยจากการโจมตีของมารซาตานหรือการล่อลวงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
1.
ความหมายภูมิคุ้มกันฝ่ายวิญญาณ
1.1.
คำว่าภูมิคุ้มกันหมายถึง ระบบป้องกันในร่างกายที่คอยช่วยเหลือไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยจากสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
1.2.
คำว่าภูมิคุ้มกันฝ่ายวิญญาณ หมายถึง
ระบบป้องกันฝ่ายวิญญาณที่คอยช่วยเหลือไม่ให้ถูกล่อลวงด้วยตัณหาของโลกนี้
หรือถูกโจมตีจากมารซาตาน
1.3.
ในพระธรรมยูดาห์ 1.20 “แต่ท่านทั้งหลายผู้เป็นที่รัก
จงก่อสร้างตัวของท่านขึ้นบนความเชื่ออันบริสุทธิ์ยิ่งของท่าน
โดยการอธิษฐานด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ 21 จงรักษาตัวไว้ในความรักของพระเจ้า
คอยพระกรุณาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจนถึงชีวิตนิรันดร์” อะไรก็มาสั่นคลอดความเชื่อของเราไม่ได้ อย่างเช่นโยบ
2.
เราจะสร้างภูมิคุ้มกันฝ่ายวิญญาณอย่างไร
2.1.
กินอาหารให้ครบห้าหมู่และสมดุลย์ คือ
“ศึกษาพระวจนะอย่างครบถ้วน” มธ 4.4
4 พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”
2.2.
ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน “คือนมัสการ-อธิษฐานต่อพระเจ้าหรือเฝ้าเดี่ยว”
สดด 42.1
1 กวางกระเสือกกระสนหาธารน้ำฉันใดข้าแต่พระเจ้า จิตใจข้าพระองค์ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น ในแต่ละวันเรามีท่าทีอย่างนี้หรือไม่อยากนมัสการ อยากอธิษฐาน
2.3.
ออกกำลังการอย่างสม่ำเสอม
“คือฝึกฝนตนเองในการรับใช้และการสามัคคีธรรม” 1 ทธ 4.7-8
7 อย่าเกี่ยวข้องกับนิยายของพวกไม่นับถือพระเจ้า และเรื่องเล่าที่ไร้สาระ แต่จงฝึกตนในทางพระเจ้า 8 เพราะถ้าการฝึกทางกายมีประโยชน์อยู่บ้าง ทางพระเจ้าก็มีประโยชน์ทุกด้าน เพราะมีพระสัญญาสำหรับชีวิตปัจจุบันและอนาคต เริ่มต้นฝึกรับใช้ในกลุ่มเซลล์
2.4.
หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ “คือไม่ปล่อยตนเองเข้าไปในการทดลอง”
1 ทธ 6.11, 2 ทธ 2.22 เราห้ามความบาปไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะไม่ทำบาปได้ พระเยซูยังถูกมารทดลอง
แต่พระองค์ไม่ทำตามคำล่อลวงของมาร
11 แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า จงหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ และจงใฝ่หาความชอบธรรมทางพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความทรหดอดทน และความอ่อนสุภาพ
22 เพราะฉะนั้นท่านจงหลีกหนีจากตัณหาของคนหนุ่ม และจงมุ่งมั่นในความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก และสันติสุขร่วมกับพวกที่ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์
2.5.
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
“คือมีเวลาพักสงบอยู่กับกับพระเจ้า” สดด 23.1-3
1 พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน 2 พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสดพระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ 3 พระองค์ทรงคืนความสดชื่นแก่ชีวิตข้าพเจ้าพระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรมเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ จิตวิญญาณเราต้องการพักสงบ และต้องการรับการฟื้นฟู
อิสยาห์ 40:31 แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย เขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย
3.
ผลที่เกิดขึ้นจากการสร้างภูมิคุ้มกันฝ่ายวิญญาณ
3.1.
ช่วยให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณแข็งแรงป้องกันจากการทำบาปได้ 1 ยน 5.18
18 เรารู้ว่าทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป แต่พระองค์ผู้ทรงบังเกิดจากพระเจ้าทรงคุ้มครองรักษาเขา และมารร้ายไม่แตะต้องเขา
3.2.
ช่วยให้เราสามารถต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ เอเฟซัส 6.11-12
11 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะสามารถต่อสู้กับอุบายของมารได้ 12 เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรค์สถาน
3.3.
ช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข สดด 1.1-3
1 บุคคลผู้เป็นสุขคือผู้ไม่เดินตามคำแนะนำของคนอธรรมไม่ยืนอยู่ในทางของคนบาปไม่นั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย 2 แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์เขาใคร่ครวญธรรมบัญญัติของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน 3 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำซึ่งเกิดผลตามฤดูกาลและใบก็ไม่เหี่ยวแห้งทุกอย่างที่เขาทำก็จำเริญขึ้น
3.4.
ช่วยให้เราสามารถรับใช้พระเจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปและตอบสนอง
ทั้งหมดนี้ควรปฏิบัติควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางสุขภาพจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง