วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567

หัวเรื่อง คริสตจักรที่เป็นพร ข้อพระธรรม กิจการ 4.32-37

โครงเรื่องคำเทศนา  วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2024



หัวเรื่อง                      คริสตจักรที่เป็นพร

คำนำ

ในคริสตจักรพระคุณเชียงราย เรามีความหลากหลายทางด้านชาติพันธ์ แต่โดยการบังเกิดใหม่ หรือโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราทั้งหลายจึงถูกบัพติศมาเข้าเป็นกายเดียวกันในพระเยซูคริสต์    คริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มก็มีความหลากหลายของสมาชิก  และเป็นคริสตจักรที่เต็มเปี่ยมด้วยพระพร และมีชื่อเสียงด้านการเป็นพระพรต่อกันและกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาเรียนรู้จากคริสตจักรเยรูซาเล็มด้วยกัน  “คริสตจักรที่เป็นพร”

ข้อพระธรรม             กิจการ 4.32-37

32 คนทั้งปวงที่เชื่อนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และไม่มีใครอ้างว่าสิ่งของที่ตนมีอยู่เป็นของตน แต่ทั้งหมดเป็นของกลาง 33 อัครทูตจึงประกอบด้วยฤทธิ์เดชใหญ่ยิ่ง เป็นพยานว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว และพระคุณอันใหญ่ยิ่งได้อยู่กับเขาทุกคน 34 เพราะว่าในพวกศิษย์ไม่มีผู้ใดขัดสน ผู้ใดมีไร่นาบ้านเรือนก็ขายเสีย 35 และนำเงินค่าของที่ขายได้นั้นมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต อัครทูตจึงแจกจ่ายให้ทุกคนตามที่ต้องการ 36 เป็นต้นว่าโยเซฟ ที่อัครทูตเรียกว่าบารนาบัสแปลว่าลูกแห่งการหนุนน้ำใจ เป็นพวกเลวีชาวเกาะไซปรัส 37 มีที่ดินก็ขายเสียและนำเงินค่าที่นั้นมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต

คำถาม               คริสตจักรที่เป็นพร มีลักษณะอย่างไร

1.     คริสตจักรมีภาพลักษณ์ที่ดี     (ข้อ 32)

1.1.                        มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

-           พระคัมภีร์เปรียบคริสตจักรเป็นสามีภรรยา   “เข้าจะเป็นกายอันเดียวกัน”

-           บางครั้งก็เปรียบเป็นอวัยวะในร่างกาย  “ความจริงมีอวัยวะหลายอย่าง  แต่ก็ยังเป็นร่างกายเดียวกัน   (1 โครินธ์ 12.12-25)

-           ภาพลักษณ์ที่สำคัญคือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

1.2.                        ไม่เห็นแก่ตัวแต่เห็นแก่กันและกัน  “ไม่มีใครอ้างว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นของตน”

-           สิ่งของของโบสถ์ ไม่ว่าเป็นอะไรก็ตาม เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน

-           สิ่งของที่มีคนนำมาถวาย  เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน

1.3.                        มีความเมตตาต่อกัน มีน้ำใจต่อกัน   “แต่ทั้งหมดเป็นของกลาง”

-           หมายความว่า  แต่ละคนได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์สิ่งของให้คริสตจักร เพื่อคริสตจักรจะได้นำไป แจกจ่ายช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากหรือมีความต้องการต่อไป

-           มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน ช่วยเหลือในยามจำเป็น

2.     คริสตจักรมีพลังอยู่ภายใน     (ข้อ 33)

“อัครทูตจึงประกอบด้วยฤทธิ์เดชใหญ่ยิ่ง เป็นพยานว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว และพระคุณอันใหญ่ยิ่งได้อยู่กับเขาทุกคน”

พลังในที่นี้ หมายถึงพลังอะไร  กำลังพูดถึงคุณภาพชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ

2.1.                        ชีวิตที่ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ 

-           ในพระคัมภีร์ใช้คำหลาย ๆ คำ   เช่น ... เต็มล้น   ประกอบ  รับฤทธิ์เดช

-           อาการที่แสดงออกคือ เอาจริงกับการนมัสการอธิษฐาน มีความกล้าหาญ  กระตือรือร้น  ร้อนรนในการประกาศ   การรับใช้   เช่นเปโตร... สเทเฟน... เปาโล... และอีกมากมาย

2.2.                        ชีวิตที่ประกอบด้วยพระวจนะของพระเจ้า

-           ความคิดและคำพูดมักจะสัมพันธ์  หรือสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้า

-           ชีวิตที่เปลี่ยนใหม่ เป็นคนใหม่ในพระคริสต์   มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

-           การดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่าง และชีวิตที่เป็นพยานเพื่อพระคริสต์

2.3.                        ชีวิตที่ประกอบด้วยความรักของพระคริสต์

-           เรารักกันด้วยความรักของพระเจ้า  ไม่ใช่เพราะความรักของเราเอง  

-           เป็นเรื่องง่ายมากที่จะปฏิเสธคนอื่น  แต่ความรักของพระเจ้าที่อยู่ในเราจะช่วยให้เรารักได้

-           ตัวอย่าง   สาวกถามว่าจะต้องยกโทษให้ถึงเจ็ดครั้งหรือ  พระเยซูบอกว่าเจ็ดคูณด้วยเจ็ดสิบ

3.     คริสตจักรมีภาระร่วมกัน       (ข้อ 34-37)

34 เพราะว่าในพวกศิษย์ไม่มีผู้ใดขัดสน ผู้ใดมีไร่นาบ้านเรือนก็ขายเสีย 35 และนำเงินค่าของที่ขายได้นั้นมาวางไว้ที่เท้าของอัครทูต อัครทูตจึงแจกจ่ายให้ทุกคนตามที่ต้องการ

3.1.                        การยอมเสียสละเพื่อกันและกัน  ผู้ใดมีไร่นาบ้านเรือนก็ขายเสีย  ไม่ใช่ทุกคนทำได้

3.2.                        การยอมช่วยเหลือกันและกัน  อัครทูตจึงแจกจ่ายให้ทุกคนตามที่ต้องการ 

3.3.                        ตัวอย่างของบาระนาบัส....................................................

สรุปและการนำไปใช้

พระเจ้าให้คริสตจักรมีความหลากหลาย ทั้งทางด้านเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ฐานะความเป็นอยู่ รวมทั้งความแตกต่างทางด้านร่างกาย  สุขภาพ หรือแม้กระทั่งวัยวุฒิและคุณวุฒิ การศึกษา หรือตำแห่งหน้าที่การงานในสังคม  ก็เพื่อให้เราได้เป็นพระพรต่อกันและกัน ไม่ใช้เพื่อโอ้อวดหรือแข่งขัน

ฉะนั้น จงดำเนินชีวิตในคริสตจักรให้สมกับการทรงเรียกให้เรามาอยู่ร่วมกันในพระคุณเชียงราย  นั่นคือการเป็นพรต่อกันและกัน