วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2567

พัฒนาคุณภาพชีวิตคริสเตียน พระธรรม 1 เทสะโลนิกา 5.12-23


 

โครงร่างคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2023

หัวเรื่อง                        พัฒนาคุณภาพชีวิตคริสเตียน

พระธรรม        1 เทสะโลนิกา 5.12-23

คำนำ

ในวันสิ้นปีเรามักจะทบทวนชีวิตตลอดทั้งปีว่าเป็นอย่างไร และเมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ เราก็มักจะบอกว่าปีนี้ต้องดีกว่าปีที่ผ่านไป  ธรรมชาติของมนุษย์ต้องมีการเจริญเติบโตขึ้นตามกาลเวลา เช่นกันกับชีวิตคริสเตียน ที่นับวันจะต้องมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตคริสเตียนให้เติบโตขึ้น พระวจะของพระเจ้าหนุนใจให้เราพัฒนาคุณภาพชีวิตคริสเตียนของเราดังนี้

1.        ด้านความสัมพันธ์กับผู้นำฝ่ายวิญญาณ (12-13)

12 พี่น้องทั้งหลาย เราขอร้องท่านให้นับถือคนที่ทำงานอยู่ท่ามกลางพวกท่าน และปกครองท่านและตักเตือนท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า 13 จงเคารพและรักเขาให้มากเพราะงานที่เขาได้ทำ จงอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน

1.1.   ผู้นำฝ่ายวิญญาณคือ คนที่ทำงานท่ามกลางเรา และปกครองดูแลตักเตือนเราในองค์พระผู้เป็นเจ้า

1.2.   สิ่งที่ควรทำคือ รักเคารพและอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน

เปาโลประสบกับความสัมพันธ์ที่ไม่คาดฝันในคริสตจักรเมืองโครินธ์ ถูกโจมตี ต่อต้าน กล่าวหาต่างๆ นาๆ สร้างความเจ็บปวดให้กับท่านอย่างมาก ท่านไม่อยากให้คริสตจักรในเทสะโลนิกาเป็นแบบนั้น

มีคำพูดว่า  ช่วยคน 10 ครั้งเขาไม่จำหรอก เขาจำได้แค่ครั้งที่เราไม่ช่วย”   หลายครั้งชีวิตของผู้นำฝ่ายวิญญาณ หรือผู้รับใช้ก็ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้  การช่วยเหลือกลายเป็นสิ่งที่ผู้รับใช้สมควรทำ  แต่จะถูกโจมตีเมื่อไม่ได้ทำเพียงแค่ครั้งเดียว หรือเมื่อคนอื่นช่วยเพียงครั้งเดียวนั้น  ว่าไม่มีความรักห่วงใยสมาชิก เสมือนหนึ่งว่าผู้รับใช้คนนี้ใช้การไม่ได้เลย บางคนถึงกับย้ายโบสถ์เลย

คำว่า “อยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน” หมายความว่า บางครั้งผู้นำอาจไม่ได้ทำอะไรตามที่เราคาดหวัง ก็อย่างโกรธ อย่าน้อยใจ หรืออย่าโจมตี  อย่าตำหนิต่อว่าผู้นำ พยายามรักษาความสัมพันธ์หรือทำให้ดีกว่าเดิม

2.        ด้านความสัมพันธ์กับคนในคริสตจักร (14-15)

14 พี่น้องทั้งหลาย ขอให้พวกท่านตักเตือนคนที่เกียจคร้าน หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญ ช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง และมีความอดทนต่อทุกคน 15 อย่าให้คนใดทำชั่วตอบแทนการชั่ว แต่จงหาทางทำดีเสมอต่อพวกท่านเอง และต่อคนทั่วไปด้วย

2.1.   ด้วยการตักเตือนคนที่เกียจคร้าน  หมายถึงคนที่ชอบทำตัวเป็นภาระของคนอื่น หรือชอบไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นแต่ตัวเองกลับไม่ทำการงานเป็นชิ้นเป็นอัน  (2 ทส 3.6-12)

2.2.   ด้วยการหนุนใจคนที่ท้อใจ/ขาดความกล้าหาญ หมายถึงคนที่ถูกครอบครัวหรือคนรอบข้างต่อต้านเรื่องความเชื่อในพระเจ้า จนเกิดความท้อ หรือบางคนไม่กล้าเปิดเผยความเชื่อ  (กท 4.19-20)

2.3.   ด้วยการช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง  หมายถึงบางคนที่เป็นผู้เชื่อใหม่หรือเก่าที่ยังมีความเชื่ออ่อนแออยู่ เราต้องช่วยเหลือเขา หรือไม่ทำให้ความเชื่อของเขาสดุด เช่น... (1 คร 8.11-13)

2.4.   ด้วยการอดทนต่อกันและกัน หมายถึงอดทนต่อความเชื่อของกันและกัน เพราะแต่ละคนก็เติบโตในความเชื่อไม่เท่ากัน บางคนเข้มแข็ง บางคนอ่อนแอ และบางครั้งก็อดทนต่ออุปนิสัยใจคอของพี่น้องแต่ละคน หรือบางครั้งก็อดทนต่อความดื้อของลูกแกะ

2.5.   ด้วยการทำตีต่อกันและกัน บ่อยครั้งระหว่างพี่น้องมีปัญหาขัดแย้งกัน แต่อย่างตอบโต้ด้วยวิธีการของโลก ตรงกันข้าม บอกว่ายิ่งต้องทำดีต่อกันใหม้มากขึ้น

3.        ด้านความสัมพันธ์กับพระเจ้า (16-23)

16 จงชื่นบานอยู่เสมอ 17 จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ 18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์ 19 อย่าขัดขวางพระวิญญาณ 20 อย่าดูหมิ่นถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ 21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น 22 จงเว้นเสียจากสิ่งที่ชั่วทุกอย่าง

3.1.   ด้านการนมัสการสรรเสริญพระเจ้า  คำว่า จงชื่นบานอยู่เสมอ เหมือนกับในฟิลิปปี 4.4 จ.ชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา  ในพจนานุกรรม มาจากคำว่าสรรเสริญ  ชีวิตคริสเตียนที่ชื่นชมยินดีได้นั้นมีในองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยการยกย่องสรรเสริญนมัสการพระเจ้าเท่านั้น

3.2.   ด้านการอธิษฐานกับพระเจ้า  ฉะนั้นเราต้องท้าทายตนเองในการมีชีวิตอยู่เพื่อการอธิษฐาน เพราะเป็นกุญแจนำเราไปสู่พระพรของพระเจ้าได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น

3.3.   ด้านการขอบพระคุณพระเจ้า  เพราะเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับเราทุกคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการได้รับพระคุณควารอด ดังนั้นเรื่องต่างๆในชีวิตจึงไม่ยากที่จะขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี

3.4.   ด้านการไวต่อการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์  การเพิกเฉยต่อการทรงนำ หรือการไม่ตอบสนองต่อการทรงนำของพระวิญญาณ เท่ากับเป็นการดับพระวิญญาณ

3.5.   ด้านการตอบสนองต่อพระวจนะของพระเจ้า   22 แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนที่ประพฤติตามพระวจนะนั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงผู้ฟังเท่านั้น ซึ่งเป็นการลวงตนเอง 23 เพราะว่าถ้าผู้ใดฟังพระวจนะ และไม่ได้ประพฤติตาม ผู้นั้นก็เป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตัวในกระจกเงา 24 เพราะว่าเมื่อดูตัวเองแล้วก็ไป และก็ลืมในทันทีนั้นว่าตัวเองเป็นอย่างไร 25 แต่ผู้ที่พิจารณาดูในวิสุทธิบัญญัติ ซึ่งเป็นพระบัญญัติแห่งเสรีภาพ และตั้งอยู่ในพระบัญญัตินั้น มิได้เป็นผู้ฟังแล้วก็หลงลืม แต่เป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะได้รับความสุขเพราะการประพฤติปฏิบัติของตน

3.6.   ด้านการแบ่งแยกชีวิตที่บริสุทธิ์แด่พระเจ้า  จงเว้นเสียจากสิ่งที่ชั่วทั้งปวง รักษาชีวิตใว้ในความบริสุทธิ์ ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ให้ปราศจากการติเตียน  หมายถึงเราต้องรู้จักแบ่งแยกการดำเนินชีวิต

สรุป / ข้อคิด / เชิญชวน

23 ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านทั้งหลายให้เป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา 24 พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นซื่อสัตย์ และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น