โครงร่างคำเทศนา
วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2023
หัวเรื่อง รอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์
พระธรรม มัทธิว 24.3, ยอห์น 14.3
Matt 24:3 เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศ
พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า
เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้"
John 14:3 และถ้าเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับเรา
เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย
คำนำ
การเสด็จกลับมาของพระคริสต์ เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างพระเยซูกับสาวก และหลังจากเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
สาวกได้ใช้หัวข้อนี้สั่งสอนผู้เชื่อในยุคแรกอย่างจริงจัง คริสเตียนทุกยุคทุกสมัยต่างก็มีความหวังใจรอคอยการเสด็จกลับมาของพระคริสต์
คำถามคือ แล้วพระองค์จะกลับมาเมื่อไร
มาอย่างไร และเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร
1.
อะไรคือความหมายในการเสด็จกลับมาของพระคริสต์
1.1.
หมายถึงยุคเก่าจะสิ้นสุดลงและจะเข้าสู่ยุคใหม่
มัทธิว 24.3
Matt 24:3 เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศ
พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า
เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้"
1.2.
หมายถึงพระเยซูถูกรับขึ้นสวรรค์อย่างไรก็จะเสด็จมาอย่างนั้นในท้องฟ้า
กิจการ 1.11,
Acts 1:11 สองคนนั้นกล่าวว่า "ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงยืนเขม้นดูฟ้าสวรรค์ พระเยซูองค์นี้ซึ่งทรงรับไปจากท่านขึ้นไปยังสวรรค์นั้น
จะเสด็จมาอีกเหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น"
1Thess 4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์
ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
1.3.
หมายถึงเหตุการณ์เดียวกันกับการรับผู้เชื่อไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์
ยอห์น 14.3
John 14:3 และถ้าเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับเรา
เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย
2.
ทำไมพระคริสต์ต้องเสด็จกลับมาอีก
2.1.
ต่อคริสเตียนหรือผู้เชื่อหรือคริสตจักร
แมทธิว 24.30-31
2.1.1.
ผู้เชื่อที่ตายไปจะเป็นขึ้นและเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่
1 เทสะโลนิกา 4.14-16
14 เพราะถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว เช่นเดียวกันบรรดาคนที่ล่วงหลับไปในพระเยซูนั้น
พระเจ้าจะทรงนำคนเหล่านั้นมากับพระองค์ด้วย 15 ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และเหลืออยู่จนถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา
จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หามิได้ 16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี
และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
2.1.2.
ผู้เชื่อที่ยังมีชีวิตจะถูกรับขึ้นและเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่
เทสะโลนิกา 4.17
1Thess 4:17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่และเหลืออยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น
เพื่อจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละเราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์
2.1.3.
เพื่อเตรียมการสถาปนาอาณาจักรของพระคริสต์บนโลกนี้
กิจการ 1.6-7 , 6 เมื่อเขาทั้งหลายได้ประชุมพร้อมกัน เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ให้แก่อิสราเอลในครั้งนี้หรือ" 7 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ 8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน
และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราทั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย
และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก" (มัทธิว
25.31-40)
2.2.
ต่อคนทั้งปวงที่ไม่เชื่อ
จะถูกพิพากษาลงโทษ มธ 25.45-46
46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์"
2.3.
ต่อมารซาตาน
จะถูกผูกมัดคุมขังเป็นเวลา 1,000 ปี วว 20.1-3
1 แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านถือลูกกุญแจของเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้นและถือโซ่ใหญ่ 2 และท่านได้จับพญานาค ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ผู้ซึ่งเป็นพญามารและซาตาน
และล่ามมันไว้พันปี 3 แล้วทิ้งมันลงไปในเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น แล้วได้ลั่นกุญแจประทับตรา
เพื่อไม่ให้มันล่อลวงบรรดาประชาชาติได้อีกต่อไป จนครบกำหนดพันปีแล้วหลังจากนั้นจะต้องปล่อยมันออกไปชั่วขณะหนึ่ง
2.4.
ต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง
จะรับการไถ่ รม 8.19-22
19 ด้วยว่าสรรพสิ่งที่ทรงสร้างแล้ว มีความเพียรคอยท่าปรารถนาให้บุตรทั้งหลายของพระเจ้าปรากฏ 20 เพราะว่าสรรพสิ่งเหล่านั้นต้องเข้าอยู่ในอำนาจของอนิจจัง ไม่ใช่ตามใจชอบของตนเอง
แต่เป็นไปตามพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้เข้าอยู่นั้นด้วยมีความหวังใจ 21 ว่าสรรพสิ่งเหล่านั้นจะได้รอดจากอำนาจแห่งความเปื่อยเน่า และจะเข้าในเสรีภาพซึ่งมีสง่าราศีแห่งบุตรทั้งหลายของพระเจ้าด้วย 22 เรารู้อยู่ว่า บรรดาสรรพสิ่งที่ทรงสร้างนั้น กำลังคร่ำครวญและผจญความทุกข์ลำบากเจ็บปวดด้วยกันมาจนทุกวันนี้
3.
เราจะเตรียมตัวรับการเสด็จกลับมาของพระคริสต์อย่างไร
3.1.
ชัดเจนในความเชื่อชัดเจนในความรอด ยน
3.17-18, ลก 18.8
16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ที่บังเกิดมา
เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ 17 เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงใช้พระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลกเพื่อจะพิพากษาโลก
แต่เพื่อช่วยโลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น 18 ผู้ที่เชื่อในพระบุตรก็ไม่ต้องถูกพิพากษาลงโทษ แต่ผู้ที่มิได้เชื่อก็ต้องถูกพิพากษาลงโทษอยู่แล้ว
เพราะเขามิได้เชื่อในพระนามพระบุตรองค์เดียวที่บังเกิดจากพระเจ้า
แต่คำถามคือ..... Luke
18:8 เราบอกท่านทั้งหลายว่า
พระองค์จะทรงแก้แค้นให้เขาโดยเร็ว
แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา
ท่านจะพบความเชื่อในแผ่นดินโลกหรือ"
3.2.
รอคอยและดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
2 เปโตร 3.11,
11 เมื่อเห็นแล้วว่าสิ่งทั้งปวงจะต้องสลายไปหมดสิ้นเช่นนี้ ท่านทั้งหลายควรจะเป็นคนเช่นใดในชีวิตที่บริสุทธิ์และที่เป็นอย่างพระเจ้า
ฮีบรู 10.19-25 19 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อเรามีใจกล้าที่จะเข้าไปในที่บริสุทธิ์ที่สุดโดยพระโลหิตของพระเยซู 20 ตามทางใหม่และเป็นทางที่มีชีวิต ซึ่งพระองค์ได้ทรงเปิดออกสำหรับเราทั้งหลายโดยม่านนั้น
คือเนื้อหนังของพระองค์ 21 และครั้นเรามีมหาปุโรหิตสำหรับครอบครัวของพระเจ้าแล้ว 22 ก็ให้เราเข้ามาใกล้ด้วยใจจริง ด้วยความเชื่ออันเต็มเปี่ยม มีใจที่ถูกประพรมชำระพ้นจากการวินิจฉัยผิดและชอบที่ชั่วร้าย
และมีกายล้างชำระด้วยน้ำอันใสบริสุทธิ์
23 ให้เรายึดมั่นในความเชื่อที่เราทั้งหลายรับไว้นั้น
โดยไม่หวั่นไหว (เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงประทานพระสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ)
3.3.
รอคอยด้วยการรีบเร่งในการรับใช้พระเจ้า
กจ 1.8
Acts 1:8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช
เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราทั้งในกรุงเยรูซาเล็ม
ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก"
สรุปและหนุนใจ
คริสเตียนแท้จะพร้อมเสมอและรอคอยพระเยซูคริสต์ด้วยความหวั่นใจ
ไม่ว่าพระเยซูจะมาเมื่อใด และมั่นใจว่าเราจะถูกรับไปอยู่กับพระองค์ หากพระองค์ยังไม่เสด็จมาเราก็จะจากโลกนี้และไปอยู่กับพระองค์แน่นอน เหตุฉะนั้น ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลก จงฉวยโอกาสที่จะรับใช้พระเจ้าและประกาศข่าวประเสริฐ
เพราะเราไม่รู้วันเวลานั้นและไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอีกนานเท่าใด (โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น