วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2567

รอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ มัทธิว 24.3, ยอห์น 14.3

 

โครงร่างคำเทศนา วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2023

 


หัวเรื่อง            รอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์

พระธรรม        มัทธิว 24.3, ยอห์น 14.3

Matt 24:3 เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศ พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้"

John 14:3 และถ้าเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย

คำนำ

การเสด็จกลับมาของพระคริสต์ เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างพระเยซูกับสาวก และหลังจากเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว สาวกได้ใช้หัวข้อนี้สั่งสอนผู้เชื่อในยุคแรกอย่างจริงจัง  คริสเตียนทุกยุคทุกสมัยต่างก็มีความหวังใจรอคอยการเสด็จกลับมาของพระคริสต์  คำถามคือ แล้วพระองค์จะกลับมาเมื่อไร มาอย่างไร และเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร

1.        อะไรคือความหมายในการเสด็จกลับมาของพระคริสต์

1.1.   หมายถึงยุคเก่าจะสิ้นสุดลงและจะเข้าสู่ยุคใหม่ มัทธิว 24.3

Matt 24:3 เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศ พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ส่วนตัวกราบทูลว่า "ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมา และวาระสุดท้ายของโลกนี้"

1.2.   หมายถึงพระเยซูถูกรับขึ้นสวรรค์อย่างไรก็จะเสด็จมาอย่างนั้นในท้องฟ้า กิจการ 1.11,

Acts 1:11 สองคนนั้นกล่าวว่า "ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงยืนเขม้นดูฟ้าสวรรค์ พระเยซูองค์นี้ซึ่งทรงรับไปจากท่านขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกเหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น"

1Thess 4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน

 

1.3.   หมายถึงเหตุการณ์เดียวกันกับการรับผู้เชื่อไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ ยอห์น 14.3

John 14:3 และถ้าเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย

2.        ทำไมพระคริสต์ต้องเสด็จกลับมาอีก

2.1.   ต่อคริสเตียนหรือผู้เชื่อหรือคริสตจักร แมทธิว 24.30-31

2.1.1.        ผู้เชื่อที่ตายไปจะเป็นขึ้นและเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ 1 เทสะโลนิกา 4.14-16

14 เพราะถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว เช่นเดียวกันบรรดาคนที่ล่วงหลับไปในพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำคนเหล่านั้นมากับพระองค์ด้วย 15 ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และเหลืออยู่จนถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หามิได้ 16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน

2.1.2.        ผู้เชื่อที่ยังมีชีวิตจะถูกรับขึ้นและเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ เทสะโลนิกา 4.17

1Thess 4:17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่และเหลืออยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น เพื่อจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละเราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์

2.1.3.        เพื่อเตรียมการสถาปนาอาณาจักรของพระคริสต์บนโลกนี้

กิจการ 1.6-7 ,  6 เมื่อเขาทั้งหลายได้ประชุมพร้อมกัน เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ให้แก่อิสราเอลในครั้งนี้หรือ" 7 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ 8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราทั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก"  (มัทธิว 25.31-40)

2.2.   ต่อคนทั้งปวงที่ไม่เชื่อ จะถูกพิพากษาลงโทษ มธ 25.45-46

46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์"

2.3.   ต่อมารซาตาน จะถูกผูกมัดคุมขังเป็นเวลา 1,000 ปี วว 20.1-3

1 แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านถือลูกกุญแจของเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้นและถือโซ่ใหญ่ 2 และท่านได้จับพญานาค ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ผู้ซึ่งเป็นพญามารและซาตาน และล่ามมันไว้พันปี 3 แล้วทิ้งมันลงไปในเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น แล้วได้ลั่นกุญแจประทับตรา เพื่อไม่ให้มันล่อลวงบรรดาประชาชาติได้อีกต่อไป จนครบกำหนดพันปีแล้วหลังจากนั้นจะต้องปล่อยมันออกไปชั่วขณะหนึ่ง

2.4.   ต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง จะรับการไถ่  รม 8.19-22

19 ด้วยว่าสรรพสิ่งที่ทรงสร้างแล้ว มีความเพียรคอยท่าปรารถนาให้บุตรทั้งหลายของพระเจ้าปรากฏ 20 เพราะว่าสรรพสิ่งเหล่านั้นต้องเข้าอยู่ในอำนาจของอนิจจัง ไม่ใช่ตามใจชอบของตนเอง แต่เป็นไปตามพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้เข้าอยู่นั้นด้วยมีความหวังใจ 21 ว่าสรรพสิ่งเหล่านั้นจะได้รอดจากอำนาจแห่งความเปื่อยเน่า และจะเข้าในเสรีภาพซึ่งมีสง่าราศีแห่งบุตรทั้งหลายของพระเจ้าด้วย 22 เรารู้อยู่ว่า บรรดาสรรพสิ่งที่ทรงสร้างนั้น กำลังคร่ำครวญและผจญความทุกข์ลำบากเจ็บปวดด้วยกันมาจนทุกวันนี้

3.        เราจะเตรียมตัวรับการเสด็จกลับมาของพระคริสต์อย่างไร

3.1.   ชัดเจนในความเชื่อชัดเจนในความรอด ยน 3.17-18, ลก 18.8

16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ที่บังเกิดมา เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ 17 เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงใช้พระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลกเพื่อจะพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น 18 ผู้ที่เชื่อในพระบุตรก็ไม่ต้องถูกพิพากษาลงโทษ แต่ผู้ที่มิได้เชื่อก็ต้องถูกพิพากษาลงโทษอยู่แล้ว เพราะเขามิได้เชื่อในพระนามพระบุตรองค์เดียวที่บังเกิดจากพระเจ้า

แต่คำถามคือ..... Luke 18:8 เราบอกท่านทั้งหลายว่า พระองค์จะทรงแก้แค้นให้เขาโดยเร็ว แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา ท่านจะพบความเชื่อในแผ่นดินโลกหรือ"

3.2.   รอคอยและดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า 2 เปโตร 3.11,

11 เมื่อเห็นแล้วว่าสิ่งทั้งปวงจะต้องสลายไปหมดสิ้นเช่นนี้ ท่านทั้งหลายควรจะเป็นคนเช่นใดในชีวิตที่บริสุทธิ์และที่เป็นอย่างพระเจ้า  

ฮีบรู 10.19-25 19 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อเรามีใจกล้าที่จะเข้าไปในที่บริสุทธิ์ที่สุดโดยพระโลหิตของพระเยซู 20 ตามทางใหม่และเป็นทางที่มีชีวิต ซึ่งพระองค์ได้ทรงเปิดออกสำหรับเราทั้งหลายโดยม่านนั้น คือเนื้อหนังของพระองค์ 21 และครั้นเรามีมหาปุโรหิตสำหรับครอบครัวของพระเจ้าแล้ว 22 ก็ให้เราเข้ามาใกล้ด้วยใจจริง ด้วยความเชื่ออันเต็มเปี่ยม มีใจที่ถูกประพรมชำระพ้นจากการวินิจฉัยผิดและชอบที่ชั่วร้าย และมีกายล้างชำระด้วยน้ำอันใสบริสุทธิ์
 23 ให้เรายึดมั่นในความเชื่อที่เราทั้งหลายรับไว้นั้น โดยไม่หวั่นไหว (เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงประทานพระสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ)

3.3.   รอคอยด้วยการรีบเร่งในการรับใช้พระเจ้า กจ 1.8

Acts 1:8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราทั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก"

สรุปและหนุนใจ

คริสเตียนแท้จะพร้อมเสมอและรอคอยพระเยซูคริสต์ด้วยความหวั่นใจ ไม่ว่าพระเยซูจะมาเมื่อใด และมั่นใจว่าเราจะถูกรับไปอยู่กับพระองค์  หากพระองค์ยังไม่เสด็จมาเราก็จะจากโลกนี้และไปอยู่กับพระองค์แน่นอน   เหตุฉะนั้น  ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลก  จงฉวยโอกาสที่จะรับใช้พระเจ้าและประกาศข่าวประเสริฐ   เพราะเราไม่รู้วันเวลานั้นและไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอีกนานเท่าใด  (โปรดติดตามตอนต่อไป)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น