วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

การส่งต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป 2 ทิโมธี 1:5, กิจการ 12:12,13:13, 2 ทิโมธี 4:11 2 ทธ 2.2

 

โครงเทศนาวันอาทิตย์ที่  8  กันยายน  2024

คริสตจักรพระคุณเชียงราย  

 


ข้อพระธรรม        2 ทิโมธี 1:5, กิจการ 12:12,13:13, 2 ทิโมธี  4:11 2 ทธ 2.2

2Tim 2:2 จงมอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กับคนที่ซื่อสัตย์ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย

2Tim 1:5 ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่าน อันเป็นความเชื่อซึ่งเมื่อก่อนได้มีอยู่ในโลอิสยายของท่าน และในยูนีสมารดาของท่าน และบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีอยู่ในท่าน

Acts 12:12 เมื่อเปโตรคิดอย่างนั้นแล้วก็มาถึงตึกของมารีย์ มารดาของยอห์นผู้มีชื่ออีกว่ามาระโก ที่นั่นมีหลายคนได้ประชุมอธิษฐานกันอยู่

 

หัวเรื่อง      การส่งต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป

บทนำ        

ปัญหาของการส่องต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป เช่น อิสราเอล อเมริกา 70  อังกฤษ 46 ฝรั่งเศส 58   เกาหลี  29

 

1.  อะไรคือการส่งต่อความเชื่อสูคนรุ่นถัดไป

1.1.             หมายถึง  คนรุ่นหนึ่งกำลังจะจากไป และคนรุ่นใหม่กำลังเติบโตขึ้นมา  เด็กไม่ใช่อนาคตของคริสตจักรแต่เป็นปัจจุบันของคริสตจักร

1.2.             หมายถึง  การส่งต่อความเชื่อในพระเจ้า  การรู้จักพระเจ้า ตรีเอกานุภาพ  ที่ส่งต่อจาก คนรุ่นหนึ่งไปสู่คนรุ่นถัดไป

1.3.             จากพระคัมภีร์ตอนนี้ คือความเชื่อในพระเจ้าได้ส่งต่อกันมาแต่ละชั่วอายุคน คือจากโลอีส  ส่งต่อให้ยูนีส  และส่งต่อถึงธิโมธี    และอีกคนคือ นางมารีย์ได้ส่งต่อความเชื่อในพระเจ้าให้กับยอห์นมาระโก   ผลคือ ทั้งทิโมธีและมาระโกต่างก็ได้มาเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์เจ้า และรับใช้อย่างเข้มแข็ง    

2.  ความสำคัญของการส่งต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป

2.1.            เพราะคนรุ่นหนึ่งกำลังจะจากไปและคนอีกรุ่นกำลังเติบโตขึ้นมา

2.2.            เพราะมีพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงพระองค์เดียว   (ฉธบ 6:4)

Deut 6:4 โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว

Deut 6:7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น

 

 

2.3.            เพราะความรอดมีในพระเยซูคริสต์ผู้เดียวเท่านั้น  (กจ 4:12)

Acts 4:12 ​ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า

2.4.            เพราะเด็กเป็นปัจจุบันของคริสตจักร   สภษ 22.6

Prov 22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น

3.  จะส่งต่อความเชื่อให้คนรุ่นถัดไปได้อย่างไร

3.1.            สอนลูกหลานให้รู้จักพระเจ้า   (ฉธบ 6:7)

Deut 6:7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น

 

3.2.            เลี้ยงดูลูกหลานตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า  (อฟ 6:4) สุภาษิต 13:24

Eph 6:4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า

 

3.3.            โดยการฝึกลูกหลานในทางของพระเจ้า  (สภษ 22:6,  1 ทธ 4:7-8)  

Prov 22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น

 

3.4.            โดยการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเข้าร่วมการรับใช้   (1 ซมอ 1:26-28)

26 นางก็กล่าวว่าท่านเจ้าข้า ท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ท่านเจ้าข้า ดิฉันเป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ที่นี่ต่อหน้าท่าน และอธิษฐานต่อพระเจ้า 27 ดิฉันอธิษฐานขอเด็กคนนี้ และพระเจ้าประทานตามคำทูลขอของดิฉัน 28 เพราะฉะนั้นดิฉันจึงให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้าตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ ดิฉันจะให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้าและเขาก็นมัสการพระเจ้าที่นั่น

 

3.5.            คริสตจักรเปิดโอกาส สร้างโอกาสให้เด็ก-อนุชนมีพื้รที่ของการรับใช้

 

สรุป 

คนรุ่นถัดไปไม่ใช่อนาคตของคริสตจักร แต่เป็นปัจจุบันของคริสตจักร  เราต้องเปิดพื้นที่ สร้างโอกาส สนับสนุนคนรุ่นใหม่ แล้วคริสตจักรจะไม่ขาดคนรุ่นใหม่ในการรับใช้พระเจ้า 

“คนชั่วอายุหนึ่งจะสรรเสริญพระราชกิจของพระองค์ ให้คนอีกชั่วอายุหนึ่งฟัง และประกาศกิจการอันทรงอานุภาพของพระองค์   สดด 145.4

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น