โครงเทศนาวันอาทิตย์ที่
8 กันยายน 2024
คริสตจักรพระคุณเชียงราย
ข้อพระธรรม 2 ทิโมธี 1:5, กิจการ 12:12,13:13, 2 ทิโมธี 4:11 2 ทธ 2.2
2Tim 2:2 จงมอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กับคนที่ซื่อสัตย์ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย
2Tim 1:5 ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่าน อันเป็นความเชื่อซึ่งเมื่อก่อนได้มีอยู่ในโลอิสยายของท่าน และในยูนีสมารดาของท่าน และบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีอยู่ในท่าน
Acts 12:12 เมื่อเปโตรคิดอย่างนั้นแล้ว ก็มาถึงตึกของมารีย์ มารดาของยอห์นผู้มีชื่ออีกว่ามาระโก ที่นั่นมีหลายคนได้ประชุมอธิษฐานกันอยู่
หัวเรื่อง การส่งต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป
บทนำ
ปัญหาของการส่องต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป
เช่น อิสราเอล อเมริกา 70 อังกฤษ 46 ฝรั่งเศส
58 เกาหลี
29
1. อะไรคือการส่งต่อความเชื่อสูคนรุ่นถัดไป
1.1.
หมายถึง คนรุ่นหนึ่งกำลังจะจากไป
และคนรุ่นใหม่กำลังเติบโตขึ้นมา เด็กไม่ใช่อนาคตของคริสตจักรแต่เป็นปัจจุบันของคริสตจักร
1.2.
หมายถึง การส่งต่อความเชื่อในพระเจ้า การรู้จักพระเจ้า ตรีเอกานุภาพ ที่ส่งต่อจาก คนรุ่นหนึ่งไปสู่คนรุ่นถัดไป
1.3.
จากพระคัมภีร์ตอนนี้ คือความเชื่อในพระเจ้าได้ส่งต่อกันมาแต่ละชั่วอายุคน
คือจากโลอีส ส่งต่อให้ยูนีส และส่งต่อถึงธิโมธี และอีกคนคือ นางมารีย์ได้ส่งต่อความเชื่อในพระเจ้าให้กับยอห์นมาระโก ผลคือ
ทั้งทิโมธีและมาระโกต่างก็ได้มาเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์เจ้า
และรับใช้อย่างเข้มแข็ง
2.
ความสำคัญของการส่งต่อความเชื่อสู่คนรุ่นถัดไป
2.1.
เพราะคนรุ่นหนึ่งกำลังจะจากไปและคนอีกรุ่นกำลังเติบโตขึ้นมา
2.2.
เพราะมีพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงพระองค์เดียว (ฉธบ 6:4)
Deut 6:4 “โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว
Deut
6:7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น
2.3.
เพราะความรอดมีในพระเยซูคริสต์ผู้เดียวเท่านั้น (กจ 4:12)
Acts 4:12 ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า”
2.4.
เพราะเด็กเป็นปัจจุบันของคริสตจักร สภษ 22.6
Prov
22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น
3.
จะส่งต่อความเชื่อให้คนรุ่นถัดไปได้อย่างไร
3.1.
สอนลูกหลานให้รู้จักพระเจ้า (ฉธบ 6:7)
Deut 6:7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น
3.2.
เลี้ยงดูลูกหลานตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า (อฟ 6:4) สุภาษิต
13:24
Eph 6:4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า
3.3.
โดยการฝึกลูกหลานในทางของพระเจ้า (สภษ 22:6, 1 ทธ 4:7-8)
Prov 22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น
3.4.
โดยการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเข้าร่วมการรับใช้ (1 ซมอ 1:26-28)
26 นางก็กล่าวว่า “ท่านเจ้าข้า ท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ท่านเจ้าข้า ดิฉันเป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ที่นี่ต่อหน้าท่าน และอธิษฐานต่อพระเจ้า 27 ดิฉันอธิษฐานขอเด็กคนนี้ และพระเจ้าประทานตามคำทูลขอของดิฉัน 28 เพราะฉะนั้นดิฉันจึงให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้าตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ ดิฉันจะให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้า” และเขาก็นมัสการพระเจ้าที่นั่น
3.5.
คริสตจักรเปิดโอกาส
สร้างโอกาสให้เด็ก-อนุชนมีพื้รที่ของการรับใช้
สรุป
คนรุ่นถัดไปไม่ใช่อนาคตของคริสตจักร
แต่เป็นปัจจุบันของคริสตจักร
เราต้องเปิดพื้นที่ สร้างโอกาส สนับสนุนคนรุ่นใหม่
แล้วคริสตจักรจะไม่ขาดคนรุ่นใหม่ในการรับใช้พระเจ้า
“คนชั่วอายุหนึ่งจะสรรเสริญพระราชกิจของพระองค์ ให้คนอีกชั่วอายุหนึ่งฟัง และประกาศกิจการอันทรงอานุภาพของพระองค์” สดด
145.4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น