วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566

คำสั่งลาของผู้อาวุโส

 

เทศนา คำสั่งลาของผู้อาวุโส

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 ณ พระคริสตธรรมหลิงเหลียง

คำทักทาย

            ท่านผู้รับใช้พระเจ้า พี่น้องคริสตชน และพี่น้องที่เคารพ   ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ลูกๆ หลานๆ ของคุณยาย นาโย   จะทอ  เราเชื่อว่าท่านจากพวกเราไปเพื่ออยู่กับพระเจ้าในสวรรค์  ขอให้สันติสุขและการปลอบโยนใจของพระเจ้าจงดำดงอยู่กับท่าน

พระธรรม        เฉลยธรรมบัญญัติ   6.4-9

4 โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว 5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน 6 และจงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน 7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น 8 จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจงจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน 9 และเขียนไว้ที่เสาประตูเรือน และที่ประตูของท่าน

หัวข้อ             คำกำชับถึง ลูกๆ หลานๆ ในพระคริสต์

คำนำ/เบื้องหลัง

พระธรรมตอนนี้ เป็นคำสั่งของโมเสส ที่ให้กับคนอิสราเอล หลังจากที่เขาออกมาจากอียิปต์ และเรร่อนในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี ก่อนที่อิสราเอลจะเข้าไปครอบครองแผ่นดินคานาอัน ซึ่งพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่า จะมอบให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานของอับราฮัม พระเจ้าไม่อนุญาตให้โมเสสนำเขาเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน ดังนั้นโมเสสจึงได้กล่าวคำกำชับนี้แก่คนอิสราเอล    เชื่อว่าคุณยาย นาโย จะทอ  ก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านก็คงอยากจะบอกเช่นนี้กับลูกหลานเช่นกัน

1.        จงรู้จักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว

4 คนอิสราเอล จงฟังเถิดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว”

1.1.   คำว่าพระเยโฮวาห์ ภาษาเดิมหมายถึง องค์พระผู้เป็นเจ้า   (เราเป็นพระเจ้าและเป็นอยู่ตลอดไป)

1.2.   คำว่าพระเจ้าเดียว หมายความว่าพระเจ้าเที่ยงและและเป็นผู้สร้าง ผู้ให้กำเนินสรรพสิ่งนั้นมีแต่พระองค์เดียว คือพระเยโฮวาห์

2.        จงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน

5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน”

2.1.   หมายถึง การเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญกับพระเจ้า   เพราะรู้ว่าเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว

3.        จงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน

6 และจงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน

3.1.   หมายถึงให้พระดำรัสสอนของพระเจ้าอยู่ในใจ เพื่อเป็นหลักบรรทัดฐานในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ทั้งด้านจริยธรรมและด้านศีลธรรม

4.        จงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน

7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น”

4.1.   เพราะโลกกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีสิ่งดึงดูดจิตใจของลูกหลานให้ออกห่างจากทางของพระเจ้ามากมายเหลือเกิน

5.        จงสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อ

8 จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจงจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน 9 และเขียนไว้ที่เสาประตูเรือน และที่ประตูของท่าน”

สรุปและข้อคิด

โมเสสไม่ได้อยู่กับคนอิสราเอลตลอดไป   เพราะเป็นเพียงมนุษย์ เมื่อถึงวาระของพระเจ้าเขาก็ต้องจากไป แต่คำสอนของโมเสสยังคงอยู่กับคนอิสราเอล และสืบทอดมาถึงเราทุกวันนี้

คุณยาย นาโยก็ไม่ได้อยู่กับลูกๆ หลานๆ ตลอดไปเหมือนกัน แต่คำสั่งสอนของท่านจะยังคงอยู่กับลูกๆ หลานๆ สืบไป

มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะอยู่กับเราตลอดวันคืนชีวิตของเรา ดังนั้น....

1.        จงรู้จักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว

2.        จงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน

3.        จงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน

4.        จงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน

5.        จงสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อ

ขอพระเจ้าอวยพระพรท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น