โครงร่างคำเทศนา ถวายขอบพระคุณ
คริสตจักรพระคุณเชียงราย
คำนำ
คนอิสราเอลจะมีการถวายพืชผลอยู่สองช่วงต่อปี
ช่วงแรกคือเทศกาลสัปดาห์ (ฉลองการเก็บเกี่ยวข้าว) ต่อมาเรียกว่าเทศกาลเพ็นเทคอสต์
(50 วันหลังเทศกาลปัสกา) ช่วงที่สองคือเทศกาลอยู่เพิง เป็นการถวายทศางค์จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่างๆ
ในวันที่ 15 เดือนที่ 7
พระธรรม อพยพ 23.16, ลนต 23.9-21, 39-43, ฉธบ
16.12-15, 26.3-15
Exod 23:16 และจงถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลแรกที่เกิดจากแรงงานของเจ้า ซึ่งเจ้าได้หว่านพืชลงในนา เจ้าจงถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บพืชผลปลายปี เมื่อเจ้าเก็บพืชผลจากทุ่งนาอันเป็นผลงานของเจ้า
Exod 23:19 “จงนำส่วนที่ดีที่สุดของพืชผลแรกจากที่ดินของเจ้ามายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า “อย่าต้มเนื้อลูกแพะด้วยน้ำนมของแม่มันเลย
หัวข้อ การถวายผลแรกและการถวายพืชผล
1.
เบื้องหลังความเป็นมา ลนต 23.9-21, 39-43, ฉธบ 16.12-15, 26.3-15
1.1.
เป็นข้อกำหนดเมื่อคนอิสราเอลเข้าไปอาศัยในแผ่นดินคานาอัน
1.2.
เริ่มจากให้ถวายข้าวกำแรก ให้ปุโรหิตทำพิธีถวายแด่พระเจ้า
ในวันที่ 1 หลังเทศกาลปัสกา
1.3.
เมื่อครบ 7 สัปดาห์หรือ 50 วัน
ให้นำข้าวใหม่มาถวายแด่พระเจ้า เฉลิมฉลองเป็นเวลา 7 วัน
1.4.
ทุกวันที่ 15 เดือน 7 เทศกาลอยู่เพิง
ให้มีการเลี้ยงฉลองนำพืชผลต่างๆ มาถวายเป็นทศางค์ เฉลิงฉลองและนอนเต้นท์ 7 วัน
2.
สาเหตุที่ให้มีการถวายผลแรกและถวายทศางค์พืชผล
2.1.
เพื่อจะเป็นที่โปรดปราณในสายพระเนตรของพระเจ้า
ลนต 23.11
และปุโรหิตจะนำพืชผลส่วนนั้น ทำพิธีโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ เพื่อพวกเจ้าจะเป็นที่โปรดปราน (ถวายเกียรติ)
2.2.
เพื่อระลึกถึงการเลี้ยงดูและการอวยพระพรของพระเจ้า
ฉธบ 16.12,15
ท่านจงถือเทศกาลนั้นแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเจ็ดวัน ณ สถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเลือกไว้ เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่พืชผลของท่าน และแก่ผลงานที่มือท่านกระทำ เพื่อว่าท่านจะมีแต่ความปีติยินดี
2.3.
เพื่อระลึกถึงพันธสัญญาของพระเจ้าที่ทำต่อบรรพบุรุษ
ฉธบ 26.3,5-10
ท่านจงไปหาปุโรหิตผู้ประจำเวรอยู่ในเวลานั้น และกล่าวแก่เขาว่า ‘ข้าพเจ้ายอมรับในวันนี้แด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านว่า ข้าพเจ้าได้เข้ามาในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย’
2.4.
เพื่อเลี้ยงดูคนเลวีคนต่างด้าวเด็กกำพร้าหญิงหม้าย
ท่ามกลางเรา (ทุกๆ 3 ปี) ฉธบ 26.12
“เมื่อท่านถวายทศางค์จากผลไม้ของท่านเสร็จแล้ว ในปีที่สามอันเป็นปีทศางค์ คือให้ทศางค์นั้นแก่คนเลวีและคนต่างด้าว ลูกกำพร้า และแม่ม่าย เพื่อเขาจะได้รับประทานให้อิ่มหนำ ภายในเมืองของท่าน
2.5.
เพื่อขอพระเจ้าอวยพรพืชผลในปีต่อๆ ไป
ฉธบ 26.15
ขอพระองค์ทอดพระเนตรจากสถานประทับบริสุทธิ์ของพระองค์ คือจากสวรรค์ และขอทรงอำนวยพระพรแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ และแก่ที่ดิน ซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ดังที่พระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของข้าพระองค์ เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์’
3.
คริสเตียนจะถวายขอบพระคุณพระเจ้าอย่างไร
3.1.
ด้วยจิตใจที่สำนึกในพระคุณความรอดที่พระเจ้าประทาน
การอวยพร การปกป้อง การทรงนำในการดำเนินชีวิต
3.2.
ถวายพืชผลแรกโดยชัก 1 ใน 10
หรือทศางค์ของผลผลิต ที่ดีที่สุดมาถวาย
3.3.
ระลึกถึงผู้รับใช้ มิชชั่นนารี
คนยากจน เด็กกำพร้า หญิงหม้าย ฉธบ 26.12
3.4.
คนที่ไม่ได้ทำไร่-สวน สภษ 3.9
ให้ถวายด้วยทรัพย์สินของตน
สรุป การถวายขอบพระคุณพระเจ้าเป็นหน้าที่
ไม่ใช่ทางเลือกที่จำทำหรือไม่ทำก็ได้ เราสามารถถวายขอบพระคุณพระเจ้าได้ทุกวัน ทุกวันอาทิตย์ ทุกเดือนและทุกปี ขอพระเจ้าได้รับเกียรติ อาเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น